หุ้น STEC ราคาวิ่งขึ้น 3.51% มาอยู่ที่ 23.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 253.13 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.26 น. โดยเปิดตลาดที่ 23 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 23.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 23 บาท
บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำหุ้นเด่นวันนี้เป็นหุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ให้ราคาเป้าหมาย 25.50 บาทเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะได้งานภาครัฐที่จะมีการเปิดประมูลในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ตามแผนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่งานขนาดใหญ่ที่เปิดประมูลที่มีมูลค่าสูงและการแข่งขันไม่สูงในเดือน ก.ค.นี้ คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก ระยะทาง 35 กม. แบ่งออกเป็น 6 สัญญา มูลค่างานรวม 83,000 ล้านบาท
STEC มีความโดดเด่นจากการที่มีเงินสดในมือสูง ณ สิ้นไตรมาส 1/59 มี 4,000 ล้านบาท และไม่มีภาระหนี้ จะมีความได้เปรียบในการรับงานขนาดใหญ่โดยไม่ต้องเพิ่มทุน นอกจากนี้ บริษัทพัฒนาอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นมาให้อยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเป็น 9.1% ในไตรมาส 1/59 หลังจากตกต่ำไปอย่างมากที่ 7.2% ในช่วงไตรมาส 4/58 จากการเกิด Cost Overrun ของโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ แต่จากการรับงานใหม่ที่เป็นงานประเภทโรงไฟฟ้าเข้ามาทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของงานใหม่ดีขึ้น คาดว่าอยู่ระดับเกิน 10% โดยคาดว่าการแข่งขันในธุรกิจรับเหมาประเภทงานโยธาให้แก่ภาครัฐในอีก 3-5 ปีข้างหน้ายังมีภาวะสดใส และมีอัตรากำไรขั้นต้นในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะงานประเภทการสร้างรถไฟฟ้า
โดยคาดว่ากำไรต่อหุ้นจากการดำเนินงานของ STEC จะเพิ่มขึ้นปีละ 18% เป็น 0.83 บาท และ 0.98 บาท ในปี 2559 และ 2560 ตามลำดับ แม้ว่าเมื่อเทียบกำไรสุทธิแล้ว ปี 2559 จะลดลง 17%YoY เนื่องจากปีก่อนมีกำไรพิเศษจากการตีราคาสินทรัพย์ แม้ว่าค่า PER จะสูงถึง 27.4 เท่า ปี 2559 และ 23.2 เท่า ปี 2560
แต่หากประเมินมูลค่าหุ้น STEC จากวิธี EV/EBlTDA ที่ 15 เท่า ได้มูลค่าเหมาะสม 25.50 บาท ยังคงแนะนำ"ซื้อ" Price Pattern ของ STEC ยังมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แม้ว่าจะยังถูกกดดันจากการเกิด Monthly Sell Signal อยู่ก็ตาม ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ STEC ที่มีความแข็งแกร่งในรอบนี้ คาดว่ามีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 24.40 บาท โดย STEC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นในรอบนี้อยู่ที่ 22.20 บาท