นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทเตรียมเปิดขาย 6 โครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท ได้แก่ ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 113, ลุมพินี ซีวิว ชะอำ, ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 (อาคาร C&D) และลุมพินี เพลส หัวหิน บวกกับอีก 2 โครงการไฮไลท์แห่งปี ได้แก่ ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-อโศก คอนโดมิเนียมหรูบนถนนเพชรบุรี ด้วยราคาขายเฉลี่ยประมาณ 150,000 บาทต่อตร.ม.
กลุ่มเป้าหมายคือผู้บริหารที่ต้องการที่พักอาศัยใจกลางเมืองด้วยราคาที่เป็นเจ้าของได้ และลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ 2 จ.เพชรบุรี รีสอร์ทคอนโดมิเนียมติดชาดหาดชะอำที่เงียบสงบ ซึ่งต่อยอดความสำเร็จจากโครงการลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ หลังจากผลตอบรับดี ทั้งยังได้รับการกล่าวขวัญถึงว่าเป็นโครงการสวยริมหาดชะอำที่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
และในต้นเดือนก.ค.นี้บริษัทได้เตรียมเปิดขาย 3 โครงการใหม่ โดยคัดสรรเฉพาะห้องสวย มุมดีที่สุดให้ลูกค้าได้เลือกก่อน ได้แก่ โครงการลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 113, ลุมพินี ซีวิว ชะอำ, ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 ส่วนในวันที่ 23 ก.ค. จะเป็นงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของทั้ง 3 โครงการ โดยสำหรับโครงการลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 113 บริษัทได้ปรับโฉมภายนอกใหม่ด้วย New Façade Design พร้อมพัฒนาห้องชุดแบบใหม่ขนาด 35 ตร.ม.2 ห้องนอน ที่เพียบพร้อมทุกประโยชน์ใช้สอยด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.55 ลบ. เพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวใหม่ภายใต้ราคาที่เป็นเจ้าของได้ (Affordable Price) และขนาด 22.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท ส่วนโครงการลุมพินี ซีวิว ชะอำ บ้านพักตากอากาศ จ.เพชรบุรี วิวสูง 20 ชั้น ราคาขายเริ่มต้น 900,000 บาท พร้อมแอร์และเฟอร์นิเจอร์ และโครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เฟส 2 คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ราคาขายเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท
“ส่วนผลงานครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายแล้วประมาณ 5,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 2 โครงการ และคาดว่าจะมีรายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดประมาณ 8,800 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามแนวทางที่บริษัทยึดมั่น แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวนก็ตาม" นายโอภาส กล่าว