นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) เปิดเผยว่า ยอดขาย (Presale) ของบริษัทในครึ่งปีแรกคาดว่าทำได้ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 5 เดือนแรกบริษัทมียอดขายแล้วที่ 1.78 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้เปิดตัว 27 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการ 2.4 หมื่นล้านบาท และบริษัทมีแผนจะเปิดอีก 28 โครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่าโครงการรวม 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะครบตามเป้าหมายการเปิดโครงการใหม่ปีนี้จำนวน 65 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5.4 หมื่นล้านบาท และซึ่งจะช่วยผลักดันให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท
โดยมีในไตรมาส 3/59 เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 5 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการ พลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น เป็นอาคารสูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,003 ยูนิต จะเปิดขายในช่วงวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้ และโครงการ พลัมคอนโด ปิ่นเกล้า สเตชั่น เป็นอาคารสูง 22 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 968 ยูนิต จะเปิดขายในช่วงวันที่ 6-7 สิงหาคมนี้ ซึ่งตั้งเป้าหมายขายหมดทั้ง 2 โครงการหมดภายใน 3 เดือน
ขณะเดียวกันบริษัทยังขยายระยะเวลาของแคมเปญ พฤกษา Non Stop ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะมียอดขายจากแคมเปญดังกล่าวไว้ที่ประมาณ 8.2 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา บริษัทได้จัดแคมเปญดังกล่าวสร้างยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ 8.18 พันล้านบาท
สำหรับยอดโอนของบริษัทในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ทำได้แล้ว 8,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดโอนอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/59 บริษัทมียอดโอนโครงการที่ 1.02 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทยังมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5.3 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนในปี 60-61 ขณะเดียวกันบริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างขาย จำนวน 171 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7.3 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงต้นปีที่ 7.8 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้บริษัทยังคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
ด้านงบซื้อที่ดินของบริษัทที่ตั้งใว้ในปีนี้ 1.6 หมื่นล้านบาท ใช้ไปแล้ว 7-8 พันล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นซื้อที่ดินในกรุงเทพฯและปริมณฑล ตามแนวรถไฟฟ้า เพื่อนำมาพัฒนาโครงการในอนาคต โดยการเปิดโครงการในปีนี้ทั้ง 65 โครงการบริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนาเรียบร้อยแล้ว
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทยืนยันว่าไม่ได้เข้าร่วมยื่นซองประมูลโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐที่ทางกรมธนารักษ์ได้เปิดให้ผู้สนใจยื่นซองประมูลในวันนี้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่กรมธนารักษ์ต้องการจ้างรับเหมาก่อสร้างโครงการ ซึ่งบริษัทไม่ได้เป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐเป็นที่ดินเช่า ทำให้อาจจะเกิดปัญหาในเรื่องสิทธิ์ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งผู้ซื้อโครงการไม่สามารถขายต่อได้ ทำให้อาจจะมีผลกระทบเกียวกับความรู้สึกในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
ส่วนการนำสต็อกบ้านของบริษัทเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐในช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-มิถุนายน) ซึ่งบริษัทมีมูลค่าโครงการเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐทั้งหมด 4 พันล้านบาท สามารถทำยอดขายได้เพียง 360 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของมูลค่าโครงการที่เข้าร่วม เนื่องจากลูกค้าถูกปฏิเสธสินเชื่อในระดับที่สูง และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้บริษัทไม่เข้าร่วมยื่นซองประมูลโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐด้วย