นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ (UREKA) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการทั้งปีจะพลิกกลับมามีกำไรอย่างแน่นอน แม้ไตรมาส 1/59 จะยังมีผลขาดทุนอยู่ 23.43 ล้านบาท แต่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/59 จะปรับตัวดีขึ้น
"ช่วงไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมาเรามีผลขาดทุนจาก 2 ปัจจัยหลักคือการปรับนโยบายการรับงานให้มีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นทำให้งานน้อยลง และได้มีการปรับลดพนักงานลง 20% ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่หลังจากที่เราจัดการทั้ง 2 เรื่องนี้ไปแล้ว ไตรมาส 2/59 งานก็มากขึ้น มีมาร์จิ้นตามที่คิดไว้ และค่าใช้จ่ายก็ลดลง ทำให้เรามั่นใจว่าทั้งปีจะมีกำไร"นายนรากร กล่าว
บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการผลิตเครื่องจักรสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Design To Order) ราว 75% รายได้จากการผลิตเครื่องจักรสำหรับกลุ่มเกษตร 8% และกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก (Make To Order) 8% รายได้จากกลุ่มสินค้าเทรดดิ้ง (ซื้อมาขายไป) และ งานบริการด้านวิศวกรรม 9%
ปัจจุบัน บริษัทมีบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) 180 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ภายในปีนี้ ที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯ ในปี 60 ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างยื่นเสนอราคางานใหม่มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะทยอยรู้ผลเสนอราคาในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ และบริษัทคาดหวังจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 50% ของมูลค่าดังกล่าว
นายนรากร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดหวังจะได้รับประโยชน์จากโครงการ"โมเดลไทยแลนด์ 4.0"ที่จะมีการสนับสนุนกลุ่มอุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และอุปกรณ์อัตโนมัติที่ภาครัฐจะมีการสนับสนุนผู้ลงทุนระบบต่างๆ ดังกล่าว ขณะที่ลูกค้ากลุ่มยานยนต์ในปีนี้คงยังชะลอตัวตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดว่ากว่าจะดีขึ้นคงเป็นปีหน้า
"ตัวผมเองก็ร่วมอยู่ในคณะอนุกรรมการในการพิจารณาโมลเดลไทยแลนด์ 4.0 ด้วย และผลประโยชน์ที่ได้รับก็มากพอสมควร จึงเชื่อว่าผู้ประกอบการจะเข้ามาลงทุนในส่วนนี้มากขึ้น ซึ่งเราก็มีความชำนาญอยู่แล้วก็จะส่งผลให้งานในครึ่งปีหลังมากขึ้นไปด้วย ซึ่งผมคาดว่ากฎเกณฑ์ต่างๆจะออกมาใน 1-2 เดือนนี้"นายนรากร กล่าว
"ปัจจุบันสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ยังไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากความต้องการซื้อยังชะลอตัวอยู่ แต่หลายๆ ค่ายรถยนต์ก็บอกว่าจะออกโมเดลใหม่ในปีหน้า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงปีหน้าผลประกอบการในด้านของยานยนต์ก็คงจะดีขึ้น"นายนรากร กล่าว
นายนรากร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรต่างประเทศที่จะเข้ามาช่วยเหลือในด้านความรู้ เทคโนโลยี หรือร่วมลงทุน เพื่อแตกไลน์ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ (AS/RS) โดยจะพยายามให้มีความชัดเจนเกิดขึ้นภายในปีนี้
"หลังจากที่เราศึกษามาแล้วว่าธุรกิจนี้กำลังได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการค่อนข้างมาก และคนที่มีความรู้ด้านนี้ในประเทศไทยยังมีไม่มากนัก เราจึงมีความสนใจ เพราะแต่ละงานมูลค่างานค่อนข้างสูงเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้เราคงต้องมาหาแนวทาง การเตรียมคน ซอฟแวร์ต่างๆเพื่อจะรองรับการขยายงานด้านนี้"นายนรากร กล่าว