โบรกฯแนะ"ซื้อ" IRPC รับผลบวกโครงการ UHV เดินเครื่อง ก.ค.นี้หนุนมาร์จิ้น,เด่นกว่ากลุ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 6, 2016 13:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) หลังมองการเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) โรงกลั่นน้ำมันที่คาดเริ่มเดือนก.ค.นี้ช่วยเพิ่มกำไรขั้นต้นการผลิตของกลุ่ม (GIM) และการใช้กำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางภาวะอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมียังทรงตัวในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นจุดเด่นของ IRPC ต่างจากผู้ประกอบการในกลุ่มเดียวกัน ขณะที่โครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) ที่จะแล้วเสร็จในปีหน้าช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจในอนาคตด้วย

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/59 ดีกว่าตลาดคาดจากส่วนต่าง (สเปรด) ธุรกิจปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นช่วยชดเชยค่าการกลั่น (GRM) อ่อนตัว โดยทิศทางผลประกอบการจะเริ่มฟื้นจากอ่อนแอในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาหลังได้รับประโยชน์จากต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบต่ำ และแนวโน้มมาร์จิ้นเริ่มดีขึ้นในอนาคต

ราคาหุ้น IRPC ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 4.88 บาท โดยนับแต่ต้นปีราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 13.49% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น 12.62%

          โบรกเกอร์                คำแนะนำ              ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          กรุงศรี                     ซื้อ                      5.50
          อาร์เอชบีฯ                  ซื้อ                      5.64
          ทิสโก้                      ซื้อ                      6.50
          คันทรี่ กรุ๊ป                  ซื้อ                      5.60
          เคทีบี                      ซื้อเก็งกำไร               5.40
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ            Trading Buy             5.30

นายณภัทร จันทรเสรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ IRPC มีแนวโน้มที่ดีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากโครงการ UHV ที่คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือนก.ค.นี้ คาดว่าช่วยหนุนกำไรให้เพิ่มขึ้นราว 800 ล้านบาท/ไตรมาส ขณะที่ปีหน้ายังจะได้รับประโยชน์จากการขยายกำลังการผลิต PP อีก 3 แสนตัน/ปีที่แล้วเสร็จ ก็จะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วย

ขณะที่มาร์จิ้นของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันคาดว่าจะยังไม่ดีในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นตามฤดูกาล ก่อนจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ที่มีการใช้น้ำมันมากขึ้น ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีสเปรดผลิตภัณฑ์ยังคงดีต่อเนื่องตามความต้องการใช้ที่ยังขยายตัว

"คาดว่า earning ในช่วงครึ่งหลังปีนี้น่าจะโอเค และปีหน้าก็จะดีต่อเนื่อง ปีนี้ก็จะได้โครงการ UHV ที่จะเริ่ม COD ในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนปีหน้าก็จะมี new capacity จาก PP ที่จะแล้วเสร็จ ก็จะเพิ่ม earning ของบริษัท"นายณภัทร กล่าว

นายณภัทร คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/59 ของ IRPC จะมีกำไรสุทธิ 3 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก แต่ในงวดไตรมาสแรก IRPC มีกำไรจากรายการพิเศษราว 1 พันล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 2/59 คาดว่า IRPC จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันราว 1 พันล้านบาทจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในช่วงปลายไตรมาสเมื่อเทียบจากช่วงต้นไตรมาส นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากสเปรดปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งด้วย

ด้าน บล.กรุงศรี แนะ"ซื้อ"หุ้น IRPC ให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 5.50 บาท โดยมองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/59 จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด รับแรงหนุนราคา PP ดีดตัวขึ้น 150 เหรียญสหรัฐ/ตันจากไตรมาสก่อน เป็น 1,100 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้สเปรดของ PP ขยับขึ้นจาก 590 เหรียญสหรัฐ/ตันในไตรมาส 1/59 เป็น 700 เหรียญสหรัฐ/ตันในไตรมาส 2/59

นอกจากนี้ IRPC ยังคงได้ประโยชน์จากสเปรด HDPE ที่แข็งแกร่ง เพราะบริษัทผลิต HDPE เกรดที่ใช้ผลิตท่อ ซึ่งมีสเปรดสูงกว่าเกรดที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ขณะที่มาร์จิ้นของ Styrenics ทั้งผลิตภัณฑ์ ABS, PS และ EPS ก็เพิ่มขึ้น 5-10% จากไตรมาสแรก

นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนในหุ้น IRPC ยังมีปัจจัยบวกที่ต้องติดตาม คือ การเดินเครื่องผลิตของโครงการ UHV จะช่วยหนุนให้ GIM ดีขึ้น บนพื้นฐานที่ค่าการกลั่น ของโรงกลั่นน้ำมัน และสเปรดของธุรกิจปิโตรเคมีในช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังทรงตัว ก็จะมีโครงการ UHV ที่เข้ามาก็จะผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก

"มองว่าค่าการกลั่นของอุตสาหกรรมครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังทรงตัว ปิโตรเคมีครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังทรง ๆ คนอื่นไม่มีเรื่องวอลุ่มเพิ่มเพราะไม่มีการ upgrade มาร์จิ้นก็น่าจะทรงทุกอย่าง run เหมือนเดิม แต่ IRPC มีโครงการ UHV ขึ้นได้จริง ๆ ก็จะช่วยหนุนมาร์จิ้นขึ้นมา 1 เหรียญต่อบาร์เรล และวอลุ่มการกลั่นเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 แสนบาร์เรลต่อวัน จาก 1.8 แสนบาร์เรลต่อวัน ทั้งมาร์จิ้นและวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นเป็นจุดเด่นกว่าคนอื่นบน environment ของ GRM ไม่ต่างกัน สเปรดไม่ต่างกัน"นักวิเคราะห์รายเดิม กล่าว

ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ แนะ"Trading Buy"สำหรับหุ้น IRPC ให้ราคาเป้าหมายที่ 5.30 บาท/หุ้น โดยประเมินว่าโครงการ UHV ที่เป็นโครงการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์มูลค่าต่ำ ได้แก่ น้ำมันเตาไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ โพรพิลีน และการเพิ่มการใช้กำลังการกลั่นเป็นระดับ 2 แสนบาร์เรล/วันนั้น จะสร้างกำไรให้กับ IRPC เพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาท/ไตรมาส บนสมมติฐาน GIM ที่ 13 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะช่วยผลักดันกำไรครึ่งหลังปีนี้ ให้เด่นกว่ากลุ่ม

ขณะที่ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) แนะนำ"ซื้อ"หุ้น IRPC ให้ราคาเป้าหมายที่ 5.64 บาท/หุ้น โดยคาดว่าความต้องการน้ำมันที่แข็งแกร่งขึ้นในรอบครึ่งปีหลัง จากฤดูเก็บเกี่ยวในสหรัฐจะช่วยหนุนส่วนต่างราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซิน ในไตรมาส 3/59 ให้ดีขึ้นและฤดูหนาวที่รุนแรงจะช่วยผลักดันความต้องการน้ำมันชนิดกลาง (middle distillates) ในไตรมาส 4/59 ซึ่งปรากฏการณ์ La Nina จะทำให้ฤดูหนาวมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ระยะสั้นคาดว่าโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถองค์กรในทุกด้าน จะช่วยหนุนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ให้เพิ่มขึ้นได้ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 59 และ 200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 60 ซึ่งอาร์เอชบีฯ ยังคงไม่รวมไว้ในประมาณการเนื่องจากต้องรอดูความสำเร็จของโครงการดังกล่าวก่อน

ทั้งนี้ มองว่ากำไรจากการดำเนินงานของ IRPC ค่อนข้างอ่อนแอในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เริ่มฟื้นตัวจากการได้ประโยชน์ของต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ และแนวโน้มมาร์จิ้นก็จะเริ่มดีขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ