หุ้นในกลุ่มลิสซิ่งปรับตัวลงทั่วหน้า โดยเมื่อเวลา 10.56 น.หุ้นในกลุ่มลิสซิ่งนำดิ่ง 3 ตัวแรก คือ หุ้น SAWAD ร่วง 5.56% มาอยู่ที่ 34 บาท ลดลง 2 บาท มูลค่าซื้อขาย 333.06 ล้านบาท
หุ้น TK ร่วง 3.39% มาอยู่ที่ 11.40 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.96 ล้านบาท
หุ้น THANI ร่วง 2.75% มาอยู่ที่ 4.96 บาท ลดลง 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 56.67 ล้านบาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดว่า ข่าวสคบ.อยู่ระหว่างการปรับปรุงเกี่ยวกับการคิดอัตราดอกเบี้ยปรับ และการคิดค่าธรรมเนียมการติดตามทวงถามหนี้ใหม่สำหรับสัญญาเช่าซื้อเป็นปัจจัยเชิงลบด้านจิตวิทยาที่กดดันราคาหุ้นในกลุ่มเช่าซื้อ โดยหุ้นที่อยู่ใน Coverage ของเราคือ SAWAD, MTLS ในระยะสั้นราคาหุ้นในกลุ่มเช่าซื้ออาจโดนกดดันจากปัจจัยดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้ จึงมองเพียงเป็นปัจจัยเชิงจิตวิทยา จึงยังคงคาดการณ์เดิมของทั้ง SAWAD และ MTLS โดยยังคงคำแนะนำ"ซื้อ"เพื่อการลงทุนระยะยาวที่ ให้ราคาเป้าหมาย 60 และ 25 บาทตามลำดับ
โดยยังชอบ SAWAD จากการมี net work ที่แข็งแกร่ง และยังคงขยายสาขาต่อเนื่อง ผลักดันให้สินเชื่อเติบโตโดดเด่น และเร่งสร้างรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจใหม่คือรับติดตามหนี้และบริหาร NPL รวมทั้งอยู่ในช่วงขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้แก่ กัมพูชา เมียนมาร์และเวียดนาม ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายจะส่วนแบ่งรายได้ธุรกิจจากต่างประเทศอยู่ที่ 10% ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดจะเป็นส่วนที่สนับสนุนการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้คาดกำไรสุทธิใน FY16 – 18F จะเติบโตสูงถึง 34% CAGR และสำหรับใน 2Q16F ยังคาดผลประกอบการยังเติบโตโดดเด่น y-y แต่ในด้าน q-q อาจเติบโตไม่สูงนัก เนื่องจากเป็นช่วง low season ของการปล่อยสินเชื่อสำหรับ SAWAD
ส่วนชอบ MTLS จากการเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคที่มีพอร์ตสินเชื่อมีคุณภาพ NPL ต่ำ มี Coverage ratio ในระดับสูงมาก ประกอบกับการที่บริษัทยังมีแผนขยายสาขาเชิงรุก และพยายามเพิ่มความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น ผลักดันให้คาดสินเชื่อและกำไรสุทธิเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยคาดกำไรสุทธิ FY16 – 18F เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 36% และเติบโตโดดเด่นมาใน FY16F ที่ 50% y-y รวมถึงคาดผลประกอบการในไตรมาส 2 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากการขยายตัวอย่างมากของสินเชื่อและต้นทุนเงินทุนที่ลดลง
ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า จากกระแสข่าวที่ว่าสคบ.กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ฉบับใหม่ โดยจะปรับปรุงการคิดอัตราดอกเบี้ยปรับและการคิดค่าธรรมเนียมการติดตามทวงถามหนี้ใหม่ และกฎหมายห้ามคิดอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่เกิน 15%
จึงมองประเด็นดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทในกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อาทิ TK, GL และ S11 แต่อย่างใด เนื่องจากประเด็นการติดตามทวงถามหนี้เป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการต่างๆ ได้รับทราบและปฏิบัติตามอยู่แล้ว
สำหรับประเด็นอัตราดอกเบี้ยในการปล่อยเงินกู้ที่ไม่เกิน 15% ถือเป็นสิ่งที่กำหนดอยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตั้งแต่ปี 2523 ซึ่งไม่ใช่ประเด็นใหม่ และไม่เกี่ยวข้องกับการเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้สัญญาเช่าซื้อ นอกจากนั้นคำพิพากษาศาลฎีกาในอดีตก็วินิจฉัยแล้วว่าไม่สามารถนำมาบังคับใช้กับการเช่าซื้อได้ ยังคงเลือก TK เป็น Top pick ประจำกลุ่มนี้ตามธีมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของรายได้เกษตรกรเช่นเดิม