หุ้น BTW ปิดเทรดวันแรกที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.95 บาท (+52%) จากราคาขาย IPO ที่ 3.75 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,067.91 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 5.05 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.05 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมสำหรับบมจ.บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ (BTW) มูลค่า 4.25 บาท อิงจาก PER ปี 2559F ที่ 9 เท่าซึ่งอ้างอิงมาจากค่าเฉลี่ย PER ของบริษัทที่ทำธุรกิจที่ใกล้เคียงกับบริษัทจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ STPI และ BJCHI ปัจจัยเสี่ยงมาจากมูลค่างานในมือที่มีจำกัด, ภาวะเศรษฐกิจที่จะกระทบต่อการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งราคาวัตถุดิบที่ผันผวน
ในปีที่ผ่านมางาน Modularization ได้ชะลอตัวตามการลงทุนของอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงานทำให้ ณ สิ้น 1Q59 BTW มีมูลค่างานในมืออยู่ที่ 1,167 ล้านบาท เพียงพอสร้างรายได้ประมาณ 2 ไตรมาสเท่านั้น อย่างไรก็ตาม BTW อยู่ระหว่างประมูลงานหลายโครงการมูลค่ารวม 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าบริษัทจะชนะราว 1 ใน 3 ของโครงการเหล่านี้จากจุดแข็งของบริษัทดังกล่าวแล้วข้างต้นรวมถึงสถิติการชนะงานในอดีตที่ผ่านมาของบริษัท นอกจากนั้นคาดว่างาน Modularization จะฟื้นตัวในปีหน้า ทำให้คาดว่ากำไรของบริษัทจะโตเฉลี่ย 23.1% ในอีก 3 ปีข้างหน้า
BTW เป็น Holding Company ถือหุ้นในบริษัทย่อย 4 แห่ง โดยมีบริษัทเบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เป็นบริษัทแกน ประกอบธุรกิจให้บริการตั้งแต่งานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก (Parts Fabrication) ที่การผลิตต้องอาศัยความรู้และความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น งานระบบท่อ (Piping System Fabrication) งานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุ (Pressure Vessels and Storage Tanks) และงานโครงสร้าง (Structural Steel Fabrication) รวมไปถึงงานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ (Modularization) ซึ่งเป็นงานโครงการขนาดใหญ่ ในหลากหลายอุตสาหกรรมเช่น เหมืองแร่ ก๊าซและปิโตรเลียม พลังงานและโรงไฟฟ้า ตามความต้องการและข้อกำหนดของลูกค้าซึ่งอยู่ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงหากอุตสาหกรรมหนึ่งอุตสาหกรรมใดชะลอตัว