นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้เพิ่มความกว้างแบนด์วิดธ์สำหรับการให้บริการ 4G บนคลื่น 1800MHz เป็น 20MHz กว้างที่สุดบนคลื่นเดียว (Single-Carrier Bandwidth) ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานกรุงเทพ-ปริมณฑล
ทั้งนี้ ดีแทคเป็นรายเดียวที่ให้บริการ 4G ด้วยคลื่น 1800MHz ที่มีคลื่นกว้างที่สุดเพียงคลื่นเดียวถึง 20MHz ทำให้เครือข่าย 4G ของดีแทคสามารถรองรับอุปกรณ์มือถือ 4G ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อในตลาด รองรับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตที่เต็มสปีด เร็ว แรง ตอบสนองทุกความต้องการ ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการสปีดที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ และเพิ่มประสบการณ์ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะชมคลิป LIVE, ดูหนังฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง หรือคอนเทนต์ออนไลน์แบบความละเอียดสูง (HD), YouTube, โซเชียลมีเดีย อัพโหลด และดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ
"ปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าใช้งานดาต้า 4G ประมาณ 3.5 GB ต่อเดือน และตั้งเป้าผู้ใช้งาน 4G เพิ่มเป็น 6 ล้านคนในปลายปีนี้"นายประเทศ กล่าว
นอกจากนี้ ดีแทคยังได้ขยายบริการ Super 4G บนคลื่น 1800MHz แบนด์วิดธ์ 15 MHz ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย เพิ่มเติมจากเดิมที่ดีแทคให้บริการ 4G บนคลื่น 2100MHz แบนด์วิดธ์ 5 MHz ทำให้สามารถรองรับการใช้งาน 4G ที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ตอบสนองทุกความต้องการใช้งานด้วยการเปิดให้บริการ 4G Calling | VoLTE (Voice over LTE) นวัตกรรมการโทรยุคเครือข่าย 4G ซึ่งมาแทนที่การโทรแบบเดิม ที่ผู้ใช้งาน 4G ใช้งานได้เพียงดาต้าความเร็วสูง และเมื่อมีสายโทรเรียกเข้าระบบจะตัดสู่โหมดการโทรด้วยเครือข่าย 3G หรือ 2G แทนเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ที่ทำให้ดีแทคเป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยี 4G calling หรือVoLTE (Voice over LTE) จะทำให้ใช้งานวอยซ์หรือโทรบนเครือข่าย 4G มีคุณภาพดีขึ้นเสียงคมชัดระดับ HD
และนอกจากนี้ดีแทคผู้นำรายแรกที่ให้บริการ WiFi Calling หรือVoWiFi (Voice over WiFi) คือบริการที่ให้ลูกค้าดีแทคสามารถโทรและรับสายโทรศัพท์ผ่านการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ WiFi ได้จากทุกที่ทั่วประเทศและทั่วโลก ซึ่งรองรับการใช้งานได้มากหลากหลายรุ่นทั้ง iPhone และ Samsung รวมถึงสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย