(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นหลังโมเมนตัมยังบวก-ราคาน้ำมันขึ้น-Fund Flow ยังไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 13, 2016 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อยู่ เนื่องจากโมเมนตัมยังเป็นบวก และตลาดต่างประเทศอยู่ในแดนบวกเกือบทุกที่ รวมไปถึงราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นได้วย

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราทางนักลงทุนต่างชาติก็ได้เข้ามาซื้อสุทธิเมื่อวานนี้ พร้อมแนะนำให้ลงทุนเลือกหุ้นที่มาร์เก็ตแคปใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น SCC, AOT, ADVANC เนื่องจากยังมี upside อย่างไรก็ดีให้ติดตามกระแส Fund Flow ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไหลเข้ามาอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,465 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,347.67 จุด เพิ่มขึ้น 120.74 จุด (+0.66%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,022.82 จุด เพิ่มขึ้น 34.18 จุด (+0.69%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,152.14 จุด เพิ่มขึ้น 14.98 จุด (+0.70%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 247.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 131.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.46 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ก.ค.59) 1,474.92 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด (+0.44%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,278.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 ก.ค.59) ปิดที่ 46.80 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.04 ดอลลาร์ หรือ 4.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.ค.59) ที่ 5.35 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.18/20 คาดวันนี้แกว่งแคบ ตลาดจับตาผลประชุม BoE ครั้งแรกหลัง Brexit พรุ่งนี้
  • ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรายละเอียดการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ หรือทีเอฟเอฟ) วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังดำเนินการจัดตั้งภายในเดือน ก.ค. 2559 วงเงินเริ่มต้น 1 หมื่นล้านบาท และจะมีการเสนอขายหน่วยลงทุนที่เหลืออีก 9 หมื่นล้านบาท ให้กับนักลงทุนภายในประเทศและต่างประเทศในเดือน ธ.ค. 2559
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงเข้าพรรษาในปีนี้มีความคึกคัก นักท่องเที่ยวคนไทยวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวล่วงหน้าจำนวนมาก หลังรัฐบาลประกาศให้วันที่ 18 ก.ค.เป็นวันหยุด ทำให้มีวันหยุดติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 16-20 ก.ค. รวม 5 วัน โดยคาดว่าจะมีรายได้สะพัดราว 1.97 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะการเดินทางทำบุญไหว้พระ
  • ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2559 ได้อนุมัติมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมสินค้าท้องถิ่น (OTOP Extravaganza) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอโดยกำหนดให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้อสินค้า OTOP ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท
  • ผู้ช่วยผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย คาดว่าปี 2559 มูลค่าการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนจะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือเกือบ 6 แสนล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกมีมูลค่า 311,747 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% จากปีที่แล้วที่ 579,085 ล้านบาท เนื่องจากยังมีบริษัทต้องออกหุ้นกู้ทดแทนหุ้นกู้ที่หมดอายุ มีบริษัททั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ต้องใช้เงินเพื่อเข้าซื้อกิจการ ธุรกิจสื่อสารและพลังงานทดแทน ต้องการเงินทุนเพื่อลงทุนในกิจการเพิ่มเติม อีกทั้งการออกหุ้นกู้มีต้นทุนถูกกว่าการกู้เงินธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ประมาณ 7% ขณะที่การออกหุ้นกู้เรตติ้ง BBB จะอยู่ที่ 3.86%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SCC (เคจีไอ) เป้า 620 บาท ประเมินราคายัง Laggard เป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์โครงการก่อสร้างภาครัฐฯ (กลุ่มรับเหมาฯ ปรับขึ้นแล้ว) โดยประเมินดีมานด์ปูนซีเมนต์ปีนี้จะเติบโตราว 3-5% โดยเฉพาะในไตรมาส 4/59 (โดยเฉพาะโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟฟ้าที่ต้องใช้ปูนซีเมนต์มาก และจะเป็นการกระตุ้นการก่อสร้างบ้านและคอนโดฯอีกรอบ เห็นได้จากหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่ปรับขึ้นแรง) พร้อมประเมินทางเทคนิคมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 490 บาท และ 498 บาท ตามลำดับ โดยมีแนวรับที่ 480 บาท (Stop loss 472 บาท)
  • IVL (โกลเบล็ก) เป้าเฉลี่ย Consensus 37.12 บาท คาดกำไร Q2/59 เติบโตขึ้น QoQ ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นราว 20% หลังไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน ขณะที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์โดยรวมปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจาก Q1/59 ช่วยหนุนกำไรปกติเพิ่มเติม และช่วงครึ่งปีหลังและปี 2017 จะมีกำลังการผลิตใหม่จากการซื้อโรงงานเก่ามาปรับปรุงเพิ่มเติม ช่วยหนุนให้ปริมาณขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้อานิสงส์ราคาฝ้ายทำ High ในรอบ 2 ปี ล่าสุด 73.7 US/Tons
  • STEC (ไอร่า) เป้า 29 บาท คาดเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาปรับลดลงตามภาวะตลาดฯ ภายใต้ปัจจัยบวกจากความชัดเจนในการเปิดประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐหลังจากนี้เป็นต้นไป เช่น รถไฟฟ้า ทั้งสีชมพู สีเหลือง และสีส้ม เป็นต้น รวมถึงงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่ง STEC มีความถนัดและรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้ง SPP และ IPP ต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา คาดเป็นโอกาสของ STEC ในการเข้าประมูล โดยเฉพาะโครงการที่มีศักยภาพในการทำกำไร ขณะที่ Backlog ที่มีอยู่ล่าสุดประมาณ 53,000 ล้านบาท ยังเพียงพอต่อการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีข้างหน้า และในเชิงพื้นฐาน STEC ยังมีจุดเด่นจากความแข็งแกร่งทางการเงิน อยู่ในฐานะที่เป็น Net Cash คาดมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน ทั้งอำนาจในการเจรจาต่อรองกับ Supplier และการเข้าประมูลงาน
  • EA (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 25.40 บาท ช่วง 2Q59 คาดกำไรโตทั้ง YoY และ QoQ หลังเริ่มCOD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่พิษณุโลก (90 MW) ตั้งแต่ 1 เม.ย. นี้และช่วง 3Q59 ยังมีกำหนดจ่ายไฟโครงการหาดกังหัน (126 MW) ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้มีกำลังผลิตรวม404 MW หนุนให้ปี 59 คาดกำไรโต 73.7%YoY

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ