(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวคล้ายตลาดภูมิภาค รอดูการประชุม ECB,FED,BOJ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 20, 2016 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวน่าจะคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ เพื่อรอผลการประชุมของทั้งธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีในวันที่ 21 ก.ค.นี้, การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ก.ค.และ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 28-29 ก.ค. โดยดูว่าจะมีมาตรการใดออกมาบ้างหรือไม่

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างก็ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วจากปัจจัยภายนอกประเทศในความคาดหวังจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ตอนนี้ก็คงรอสัญญาณใหม่ที่จะเข้ามา และคืนนี้ก็ให้ติดตามสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มราคาน้ำมันในระยะต่อไป

ส่วนปัจจัยในประเทศก็ให้ติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/59 ของบริษัทจดทะเบียน ภายหลังจากที่งบฯแบงก์ที่ทยอยออกมาโดยรวมถือว่าดีกว่าตลาดประเมินไว้

พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,559.01 จุด เพิ่มขึ้น 25.96 จุด (+0.14%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,036.37 จุด ลดลง 19.41 จุด (-0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,163.78 จุด ลดลง 3.11 จุด (-0.14%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 76.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 26.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 21.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.49 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 15.19 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.06 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.ค.59) 1,492.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.31 จุด (+0.22%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,241.31 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ก.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ก.ค.59) ปิดที่ 44.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ก.ค.59) ที่ 4.92 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.00/04 แนวโน้มแข็งค่าจากแรงขายดอลล์-ลุ้นผลประชุม BoE ในสัปดาห์นี้
  • ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากรเข้าไปตรวจสอบการเสียภาษีของบริษัทนอมินีทั้งหมดในทุกภาคธุรกิจ โดยเริ่มจากบริษัทนอมินีทัวร์ต่างประเทศต่างๆ ที่มีขึ้นจำนวนมาก โดยให้ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการตรวจสอบการเสียภาษีของนอมินีบริษัทท่องเที่ยวทั้งหมด
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยข้อมูลการโอนเงินผ่านระบบบาทเนตไตรมาส 2/59 ปริมาณเกือบ 1 ล้านรายการ มูลค่ากว่า 200 ล้านล้านบาท และเดือนล่าสุดปริมาณและมูลค่ายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี ซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล และจ่ายคืนเงินต้นดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลโตถึง 425.4%
  • นักวิเคราะห์เตือนราคาทองยังผันผวน แนะตัดขาดทุน 1,290 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ด้านโบรกฯทองมองภาพรวมครึ่งปีหลังราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นถึง 1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
  • รมว.คลัง เตรียมนำข้อมูลทะเบียนคนจนมาจัดระเบียบสวัสดิการรัฐใหม่ เพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรามากกว่า 600 บาท/เดือน ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟรี พร้อมเชื่อมระบบจ่ายสวัสดิการ-เบี้ยยังชีพเข้าอีเพย์เมนต์ จ่ายเงินโดยตรงผู้สูงอายุ มั่นใจหากช่วยเหลือตรงจุดจะประหยัดงบ 8.8 หมื่นล้านบาท นำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือจ่ายสวัสดิการเพิ่มได้
  • มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ระบุ ภาพรวมกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ในช่วงครึ่งปีแรกมีเงินไหลออกถึง 10,623 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินไหลออก 7,026 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากถือครองครบ 5 ปี หากนักลงทุนซื้อแอลทีเอฟในปี 2555 และขายในปี 2559 จะได้ผลตอบแทนประมาณ 7-8% ต่อปี โดยเงินไหลออกจากกองแอลทีเอฟทั้งสองประเภท คือ กองที่ลงทุนในหุ้น 100% และกองที่ลงทุนในหุ้น 70% และตราสารหนี้ 30%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TMT (ไอร่า) เป้า 13.30 บาท คาด 2Q/59 กำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดีที่ 170 ล้านบาท และทำให้คาด 1H/59 มีกำไรสุทธิ 450 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 58 และภายใต้ภาพรวมทั้งปี 59 ยังโดดเด่น รวมถึงเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจในกลุ่มเหล็ก จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น จากการบริหารจัดการ Stock ได้ดี ที่สำคัญเป็นหุ้นปันผลเป็นประจำ 1 ครั้ง/ปี คาด Div.Yield สูงถึง 10.5%
  • CPN (โกลเบล็ก) เป้า 65 บาท คาดรายได้ปี 59 ที่ 3.45 หมื่นลบ. (+26%) และกำไรสุทธิ +15% เป็น 9.8 พันลบ.จากการรุกธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อขาย,ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างสาขาในประเทศ 3 แห่งที่จ.นครศรีธรรมราช (grand opening 28 – 31 ก.ค.) จ.นครราชสีมา (เปิดครึ่งปีหลังปี 60) และจ.ภูเก็ต เฟส 2 (เปิดครึ่งปีหลังปี 60) และที่ต่างประเทศคือมาเลเซีย (เปิดปี 61) ในปี 61 จะเริ่มรับรู้รายได้จากคอนโดฯ ทำเลใกล้กับศูนย์การค้าสาขาเชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่น
  • TCAP (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 42.25 บาท กำไรไตรมาส 2/59 ที่ 1.47 พันลบ. เติบโต +5.2%YoY +8.6%QoQ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ลดลงถูกชดเชยด้วยการลดลงของ Provision ด้าน NPL ลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 2.71% LLR Coverage แข็งแกร่ง 125% จึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 59 ที่ 6 พันล้านบาท
  • IRPC (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 5.85 บาท คาดกำไร 2Q59 อยู่ที่ราว 3,711 ล้านบาท +731%QoQ และ +23%YoY โดยผลประกอบการได้ผลบวกจากกำไรสต๊อกน้ำมันดิบและค่าเงินบาทราว 1.5 พันล้านบาท ส่วนโครงการ UHV เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ช่วยหนุนผลประกอบการ ทั้งนี้ยังคงประมาณการปี 59 ที่ 9,040 ล้านบาทตามเดิมซึ่งหดตัว 4% จากปีก่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ