บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) คาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะดีกว่าที่เคยประมาณการไว้เดิม หลังผลประกอบการในงวดครึ่งแรกของปีนี้สูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม โดยมีกำไรสุทธิ 1,215 ล้านบาท เติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายได้ที่เติบโต 13% มาที่ 7,494 ล้านบาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) เท่ากับ 39.8% เพิ่มจาก 38.3% ณ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ด้านปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรในรอบ 5 เดือนของบริษัทขยายตัว 15.9% สูงกว่าอัตราเติบโตของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 8.5% ขณะที่ยอดลูกหนี้รวมสุทธิขยายตัวที่ 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิเพิ่มจาก 34,417 ล้านบาท เป็น 38,024 ล้านบาท และลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิจาก 15,349 ล้านบาท เป็น 17,939 ล้านบาท ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสำหรับครึ่งปีแรกเท่ากับ 15.3% สูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนเงินทุนที่ลดลงจาก 4.05% เหลือ 3.34%
นอกจากนี้ยังควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ดีต่อเนื่อง โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลูกหนี้รวมของบริษัทอยู่ที่ 1.91% ลดลงจาก 2.06% ณ สิ้นปี 58 อีกทั้งลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 2.21% และ 2.00% ตามลำดับ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะยังสามารถรักษาระดับ NPL ให้อยู่ในระดับต่ำได้อย่างต่อเนื่อง
"ครึ่งปีแรกนี้บริษัทมีการขยายตัวในพอร์ตรวม โดยใช้งบประมาณด้านการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่ำกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากต้นทุนเงินที่ต่ำลง รวมถึงการควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้เป็นอย่างดี เป็นผลให้ผลประกอบการของบริษัทสูงกขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ บริษัทจึงคาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะทำให้ผลการดำเนินงานของปีนี้จะดีกว่าที่เคยประมาณการไว้เดิม"KTC ระบุในเอกสารแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ