นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 3 พันล้านบาท หลังจากผ่านไปเพียง 6 เดือนพอร์ตสินเชื่อทะลุเป้าหมายเดิมที่ 2 พันล้านบาทไปแล้ว เนื่องจากความต้องการสินเชื่อเติบโตขึ้นมาก และบริษัทยังคงจะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายผลักดันพอร์ตสินเชื่อแตะ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า
บริษัทยังมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ โดยเลือกใช้สินเชื่อจากบริษัทซึ่งเป็น non-bank ที่มีความคล่องตัวในการวิเคราะห์และอนุมัติสินเชื่อมากกว่าธนาคารพาณิชย์ ใช้ระยะเวลาน้อยกว่าและให้วงเงินสูงกว่า โดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แม้ว่าบริษัทจะคิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารพาณิชย์ที่ระดับเฉลี่ยประมาณ 15% ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 6%
ปัจจุบัน พอร์ตสินเชื่อของบริษัท เป็นสินเชื่อของลูกค้าขนาดกลางและใหญ่ราว 60% และสินเชื่อลูกค้ารายย่อย 40% ขณะที่พอร์ตสินเชื่อคงค้างครึ่งปีแรกอยู่ในระดับ 2.1 พันล้านบาท
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ก็จะเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส หลังจากเริ่มพลิกมีกำไรตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 58 เนื่องจากบริษัทได้ปรับโครงสร้างฐานทุนเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ด้วยการหันไประดมทุนจากการออกตั๋วแลกเงิน (B/E) และหุ้นกู้ แทนการกู้เงินจากธนาคาร ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/59 บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ล็อตใหม่อีก 600 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้ 2 พันล้านบาท และได้ออกหุ้นกู้ล็อตแรกไปแล้ว 700 ล้านบาท และคาดว่าหุ้นกู้ล็อตใหม่น่าจะมีอัตราดอกเบี้ยลดลงเล็กน้อยจากครั้งก่อนที่ 5.6% เป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาด
สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลัง บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อเตรียมขยายธุรกิจสินเชื่อในพม่าและกัมพูชา โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยภายใต้บริษัทลูก คือ แคปปิตอล โอเค ซึ่งบริษัทได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรที่พม่าแล้วน่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนที่กัมพูชาคาดว่าจะเป็นรูปแบของการเข้าไปซื้อพอร์ตสินเชื่อของผู้ที่ให้บริการรายเดิมเพื่อนำมาต่อยอด คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้
นางสาวสุกัญญา เปิดเผยอีกว่า บริษัทยังมีแผนนำธุรกิจคอลล์เซ็นเตอร์ภายใต้บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 61