หุ้น TSTH ราคาพุ่งพรวดขึ้น 16.18% มาอยู่ที่ 0.79 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท มูลค่าซื้อขาย 49.87 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.44 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.84 บาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 เดือน และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.78 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ถือ"หุ้น บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH โดยราคาหุ้นปัจจุบันแม้ว่าจะซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 1.1 บาท และ ต่ำกว่าราคาเป้าหมาย 0.85 บาท บนฐานค่าเฉลี่ย P/BV เท่ากับ 0.76 เท่า แต่แนวโน้มผลประกอบการในอนาคตมีแนวโน้มจะกลับมาทรุดลงใหม่ตามราคาเหล็กในปัจจุบันที่ทรุดลง แม้กำไรไตรมาส 1 ปี 59/60 โดดเด่นก็ตาม
TSTH ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 59/60 (งวดเม.ย.-มิ.ย.2559) มีผลประกอบการที่โดดเด่น มีกำไรสุทธิที่สูงถึง 216 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.03 บาท) เติบโตโดดเด่นจากไตรมาสก่อน 65% และงวดปีก่อน 1,936% ผลประกอบการได้แรงหนุนจากราคาเหล็กในเดือนเม.ย.-พ.ค. ที่ปรับตัวพุ่งขึ้นแรง แม้ว่าในเดือน มิ.ย.จะทรุดลง รวมแล้วราคาเฉลี่ยในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 15,269 บาท/ตัน (+13%QoQ, -6%YoY)
ในขณะที่ TSTH มีสต็อกประมาณสองเดือน ซึ่งเป็นต้นทุนต่ำ ทำให้สเปรดดีขึ้น และ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 12.1% เทียบกับ 9.0% ในไตรมาสก่อน และ 5.6% ในปีก่อน ในขณะที่ปริมาณขายอยู่ในเกณฑ์ดี 301,000 ตัน (-4%QoQ, +11%YoY) จากผู้ผลิตเหล็กรายอื่นประสบปัญหา และลูกค้ามีการสต็อกเหล็กมากขึ้น รวมแล้วมีมูลค่ายอดขายเท่ากับ 4,596 ล้านบาท (+8%QoQ, +4%YoY) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเปลี่ยนแปลงตามปริมาณขาย 204 ล้านบาท (-2%QoQ, +11%YoY) ในขณะที่ภาระดอกเบี้ยจ่ายปรับลดลงจากปีก่อนเหลือ 28 ล้านบาท (+15%QoQ, -28%YoY) จาก TSTH มีการชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันภาระหนี้ลดลงเหลือเพียง 2,662 ล้านบาท (-27%YoY)
สถานการณ์เหล็กเส้นในปัจจุบันได้ทรุดลงอย่างหนัก หลังจากที่ได้พุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 18,333 บาท/ตัน (อ้างอิงเหล็ก SD40 ขนาด 16mm) ในเดือน พ.ค. แต่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็วในเดือน มิ.ย. เหลือ 16,833 บาท/ตัน และ ราคาล่าสุดได้ดิ่งลงต่อเหลือเพียง 14,500-15,000 บาท/ตัน ตามทิศทางราคาเหล็กในตลาดโลก จึงยังคงประมาณการ จากสถานการณ์ราคาเหล็กในปัจจุบันผันผวนอย่างหนัก โดยประเมินกำไรปีนี้ (เม.ย.59-มี.ค.60) เท่ากับ 548 ล้านบาท (+256%YoY)