โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง (TPCH) คาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ทุกไตรมาส ส่งผลกำไรครึ่งปีหลังถึงปีหน้าโตก้าวกระโดด โดยคาดกำไรปี 59 โตกว่า 400% และปี 60 โตกว่า 50% ขณะที่การเปลี่ยนขายไฟฟ้าจากระบบ Adder เป็นระบบ FiT ทำให้ได้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหนุนกำไรโต นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 3-4 แห่ง ทยอย COD ตั้งแต่ปี 59-61 พร้อมเก็งชนะประมูลผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 36 เมกะวัตต์ (MW) เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเชี่ยวชาญ ขณะที่กกพ.จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคในวันที่ 5 ส.ค. ก่อนจะเปิดซองราคาในวันที่ 22 ส.ค.นี้
ราคาหุ้น TPCH ช่วงบ่ายอยู่ที่ 18.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท (+0.53%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 1.31%
บัวหลวง ซื้อ 24 ซีไอเอ็มบีฯ ซื้อ 27 โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 23 เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 21.10 นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บล.บัวหลวง แนะ"ซื้อ"หุ้น TPCH ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท จากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดด โดยกำไรปี 59 คาดที่ 270 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 480% จากปีก่อนที่ 47 ล้านบาท และปี 60 คาดกำไร 500 ล้านบาท เติบโต 85% จากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม นอกจากนี้ การเปลี่ยนการรับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวล จากระบบ Adder เป็น Feed in Tariff (FiT) จะทำให้ได้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป "มองเฉพาะกำไรและงานในมือ ยังไม่นับรวมการก่อสร้างใหม่ และโครงการที่จะยื่นประมูลเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่มีผลต่อประมาณการของบริษัท เรามองแค่ปัจจุบันกำไรก็โตหลายเท่าตัวแล้ว โดยผู้บริหารได้เน้นถึงการเติบโตของกำไรที่คาดจะทำจุดสูงสุดใหม่ในแต่ละไตรมาส จากการเริ่มขายไฟฟ้า (COD) ของโรงไฟฟ้าอีก 3 โรง ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง"นายวิกิจ กล่าว ขณะที่บทวิเคราะห์ของบล.บัวหลวง ระบุว่าปัจจัยหนุนราคาหุ้น TPCH และโอกาสในการปรับกำไรขึ้นนั้น คาดว่ามาจากโดยโครงการชีวมวลที่ปัตตานี เฟสที่ 1 (PTG1) ขนาด 23 MW ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับ LOI แล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะรู้ผลเดือนส.ค. และเมื่อ EIA ผ่านจะสามารถเปลี่ยนเป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ( PPA) ได้ ซึ่งผู้บริหารคาดไม่เกิน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ โดยโครงการดังกล่าวยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย เบื้องต้นคาดว่าราคาเป้าหมายจะปรับเพิ่มราว 6 บาท/หุ้น สำหรับ PPA ในโครงการ PTG1 และคาดจะส่งผลให้กำไรในปี 61 เติบโตมากกว่าคาดราว 20% เป็น 700 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 60% ต่อปี ในช่วง 59-61 นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะ"ซื้อ"หุ้น TPCH ให้ราคาเหมาะสมที่ 23 บาท โดยมองแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/59 ดีต่อเนื่อง และทั้งปีกำไรเติบโตสูง ขณะที่ยังมีความเสี่ยงเรื่องการประมูลโครงการแล้วไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรือภาครัฐเลื่อนประมูลโครงการ แต่ในเชิงพื้นฐานยังดีอยู่ และยังความคาดหวังจากการประมูลเพื่อผลิตไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 36 MW ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิคในวันที่ 5 ส.ค.และกำหนดเปิดซองราคาในวันที่ 22 ส.ค.นี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ" หุ้น TPCH ให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท มองกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 520% มาที่ 289 ล้านบาท เพราะรับรู้โรงไฟฟ้าได้หลายโรง จากที่ COD แล้วกว่า 20 MW ส่งผลให้กำไรปีนี้จะเติบโตเด่นจากปี 58 และมองปี 60 กำไรยังน่าจะโตได้อีก 50% และโตต่อเนื่องถึงปี 61 นอกจากนี้การที่หน่วยงานกำกับดูแลประกาศเปลี่ยนรูปแบบการรับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวล สำหรับโรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) จากระบบ Adder เป็น FiT นั้นจะเพิ่มมูลค่าหุ้น TPCH อีก 1 บาท/หุ้น "เพราะโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามาในระบบปีนี้กำไรโต 520% ซึ่งถ้ากำไร yoy โตขนาดนี้ ทุกไตรมาสดีขึ้นแน่นอน"นักวิเคราะห์ กล่าว ด่านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ" หุ้น TPCH ให้ราคาเป้าหมาย 21.10 บาท มองทิศทาง TPCH ยังคงอยู่ในขาขึ้น จากกำลังการผลิตไฟฟ้าในไตรมาส 2/59 ที่ยังคงเพิ่มต่อเนื่อง 47% จากไตรมาสก่อน และ 174% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 25 MW ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของ TPCH ยังคงเดินไปตามปกติ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 3-4 แห่ง และจะทยอย COD ตั้งแต่ปี 59-61 นอกจากนี้ยังมีโอกาสสูงสำหรับการเป็นผู้ชนะประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้วย