นายฟรานซิส แวนเบลเลน กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI) กล่าวว่า เหมืองแม่สอดของบริษัทฯ ได้เสร็จสิ้นภารกิจผลิตแร่สังกะสีที่ดำเนินการมายาวนาน 32 ปีแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณสำรองแร่หมดลง โดยในปี 59 ผลิตแร่สังกะสีได้จำนวนทั้งสิ้น 140,000 ตัน
หลังจากนี้เหมืองฯ จะเร่งดำเนินการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้คืนกลับสู่สภาพป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์ดังเดิมตามแผนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมก่อนส่งมอบคืนพื้นที่ให้แก่กรมป่าไม้ภายในปี 60 เพื่อพัฒนาเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่อไป นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบและจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่สังกะสีดอยผาแดง พร้อมทั้งเจดีย์พระธาตุผาแดง ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีหน้า
นายฟรานซิส กล่าวต่อว่า แร่สังกะสีที่ผลิตได้จากเหมืองแม่สอดจะส่งไปถลุงเป็นผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีที่โรงถลุงสังกะสี จังหวัดตากตามปกติ โดยในปี 59 บริษัทมีแผนการผลิตและจำหน่ายโลหะสังกะสีจำนวน 70,000 ตัน และจะส่งมอบผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีให้กับลูกค้าของบริษัทฯต่อเนื่องไปจนปี 60 ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการนำเข้าผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีเพื่อมาจำหน่ายในอนาคตอีกด้วย
ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินโครงการจัดการกากอุตสาหกรรมแบบครบวงจรที่ จ.ตากซึ่งเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัท โดวา อีโค - ซิสเต็ม จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท โดวา โฮลดิ้งส์ จำกัด) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์จัดการกากอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันให้โครงการดังกล่าวรองรับการแก้ไขปัญหากากอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศไทย โดยจะรองรับกากอุตสาหกรรมได้อย่างน้อยปีละ 50,000 ตัน ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปี 2561 หากได้รับอนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญได้ตามกำหนดเวลา