SIRI เปิดตัว “ฮาบิโตะ (HABITO) รีเทล มอลล์"มูลค่าลงทุน 400 ลบ. ตั้งเป้ารายได้ 40 ลบ./ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 27, 2016 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทฯเปิดตัว“ฮาบิโตะ (HABITO) รีเทล มอลล์" ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Heart of Good Living ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกจากแสนสิริ ขนาด 10,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 4 ไร่ของที77 (T77) มูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท โดยวางเป้าเป็นศูนย์รวมครีเอทีฟไลฟ์สไตล์ระดับนานาชาติแห่งใหม่ในที 77 (T77) และตั้งเป้ารายได้ต่อปี 40 ล้านบาท

“ฮาบิโตะมีศักยภาพที่โดดเด่นจากคอมมูนิตี้มอลล์อื่นในใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยฐานลูกค้าที่จะรอใช้บริการจากผู้อยู่อาศัยในที77 กว่า 5,000 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการใช้บริการจากชุมชนโดยรอบของย่านอ่อนนุชกว่า 10,000 ครัวเรือน เราคาดว่าในอนาคต ฮาบิโตะ จะเป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัย ที่ช่วยเติมเต็มให้ ที77 เป็นฮับแห่งการอยู่อาศัยของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Good Time for A Good Life” ด้วยโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริที่แวดล้อมในที77 ถึงกว่า 6 โครงการ รวมถึง โครงการ Park Court Grand Apartment อพาร์ทเมนท์ระดับพรีเมียมจากมั่นคงเคหะการซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ในปี 2017 ยังมีโรงเรียนนานาชาติ บางกอกเพรพ Bangkok International Preparatory & Secondary School (Bangkok Prep) มาร่วมเป็นเพื่อนบ้านในอนาคตที่จะเสริมให้ที 77 เป็นศูนย์กลางแห่งการอยู่อาศัยบนถนนสุขุมวิท 77 อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย” นายอุทัย กล่าว

สำหรับฮาบิโตะ รีเทล มอลล์ ภายในประกอบด้วย 15 ร้านอาหารนานาชาติ ทั้งญี่ปุ่น ลาว จีน เม็กซิกัน เวียดนาม อิตาเลี่ยน ฯลฯ ที่คัดสรรว่าดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่อาศัยอยู่ในที77 โดยกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ใน T77 มากที่สุด คือ ชาวฮ่องกงและสิงคโปร์ จึงเป็นที่มาของการคัดสรรร้านอาหารทั้ง 15 ร้านให้มีความหลากหลายจากนานาชาติ พร้อมด้วยร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมายที่ได้คัดสรรมาเพื่อให้สามารถตอบสนองไลฟสไตล์ของลูกค้า นอกจากรับประทานอาหารและช้อปปิ้งแล้วยังสามารถใช้เวลาว่างด้วยการทำกิจกรรมอื่นๆที ฮาบิโตะ ได้เช่นกัน อาทิ ออกกำลังกายด้วยคลาสมวยสุดมันกับ อาร์เอสเอ็ม มวยไทย อะคาเดมี่ (RSM : Rajadamnern Singha Muay Thai Academy) ซึ่งมีจุดเด่นในการผสมผสานกีฬามวยเข้ากับโยคะ เพื่อการเผาผลาญพลังงานและกระชับสัดส่วนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เสริมสวยกับร้านทำผมสไตล์เกาหลี Sunshine by Prestige เป็นต้น

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของฮาบิโตะ คือ ‘ฮับบาโตะ (HUBBA-TO)’ โค-ครีเอชั่น คอมมูนิตี้ (Co-Creation Community) ครั้งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสนสิริได้ร่วมมือกับฮับบา ไทยแลนด์ (HUBBA Thailand) ผู้บุกเบิก Coworking Space ในประเทศไทย เนรมิตพื้นที่ที่เป็นมากกว่า Coworking Space ทั่วไป ด้วยการเพิ่มพื้นที่สำหรับ Creative & Design Workshop ไม่ว่าจะเป็น Dark Room ห้องมืดล้างฟิล์มที่หายากในยุคสมัยนี้ หรือ Textile & Leather Studio ตอบโจทย์ทุกๆความต้องการของงานดีไซน์กับฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เพื่อผลักดันและยกระดับงานดีไซน์ของไทยให้สามารถก้าวขึ้นสู่เวทีชั้นนำระดับโลก และเป็นศูนย์รวมของผู้มีหัวใจรักในงานศิลปะและมีไอเดียสร้างสรรค์ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง

นายอุทัย เชื่อมั่นว่าในอนาคต ฮาบิโตะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ที 77 เป็น International community อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ในแง่ธุรกิจ ฮาบิโตะจะช่วยส่งเสริมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของแสนสิริได้เป็นอย่างดี ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท จะทำให้แสนสิริมีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าพื้นที่ในคอมมูนิตี้ มอลล์ที่คิดอัตรา 750–1,500 บาท ต่อ ตร.ม. ประมาณ 40 ล้านบาทต่อปีซึ่งหากเทียบกับรายได้รวมของบริษัทแล้วถือว่าน้อยกว่า 0.15% แต่สิ่งที่ได้กลับมามีมูลค่ามากกว่านั้น เพราะเป็นการส่งมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีแก่ครอบครัวแสนสิริด้วยการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการของแสนสิริทำเลสุขุมวิท 77 ตลอดจนเป็นการเพิ่มความน่าสนใจในการซื้อและลงทุนในโครงการของแสนสิริ อันจะนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของที่ดินในโซนนั้นในอนาคต

สำหรับทำเลที 77 แวดล้อมด้วยโครงการคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์ของแสนสิริที่ได้รับการตอบรับที่ดีและปิดการขายไปแล้วทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่าโครงการทั้งหมดในที 77 รวมทั้งสิ้นประมาณ 10,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ รวมกว่า 5,000 ยูนิต ประกอบด้วย 1.บลอคส์ สุขุมวิท 77 (Blocs Sukhumvit 77) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขายและราคารีเซลล์สูงถึง 100,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 79,500 บาทต่อตารางเมตร 2.เดอะ เบส สุขุมวิท 77 (THE BASE Sukhumvit 77) มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ราคารีเซลล์เพิ่มขึ้นเป็น 95,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 60,000 บาทต่อตารางเมตร 3.เดอะ เบส พาร์คเวสต์ (THE BASE Park West) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ราคารีเซลล์สูงถึง 102,500 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 79,000 บาทต่อตารางเมตร 4.เดอะ เบส พาร์ค อีสต์ (THE BASE Park East) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ราคารีเซลล์สูงถึง 111,650 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 82,000 บาทต่อตารางเมตร 5.hasu HAUS (ฮาสุ เฮาส์) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ราคารีเซลล์สูงถึง 112,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาขาย 95,000 บาทต่อตารางเมตร 6.การ์เดนท์ สแควร์ (Garden Square) ทาวน์เฮาส์มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ