นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 63 จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือเพิ่มเป็น 1,000 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 400 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันบริษัทมี PPA อยู่ในมือแล้ว 336 เมกะวัตต์ ขณะที่อยู่ระหว่างการเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในญี่ปุ่นและพม่า คาดว่าปลายปีนี้จะได้มีข้อสรุป นอกจากนี้ยังมีการศึกษาและเจรจาลงทุนเพิ่มเติมในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดียด้วย
บริษัทคาดว่าในปี 63 สัดส่วนรายได้จากพลังงานทดแทนจะเพิ่มเป็น 83% จากปีก่อนอยู่ที่ 45% ตามเป้าหมายที่รุกพลังงานทดแทนมากขึ้น เพราะบริษัทต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจที่สร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีความผันผวนต่ำ และให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ ปัจจุบันบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ราว 30% หรือคาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,800 ล้านบาท จากปีก่อน 4,870.70 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีการพิจารณาปรับเป้าหมายรายได้อีกครั้งในเดือน ส.ค.59 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ (backlog) ค่อนข้างมาก และอยู่ระหว่างการเข้าไปรับเหมาก่อสร้าง (EPC) งานโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์หลายแห่ง จากเบื้องต้นที่ได้งานมาแล้ว 20 เมกะวัตต์ ซึ่งในวันที่ 15 ส.ค.จะรู้ผลการรับงานเพิ่มเติมอีกจากงานโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ที่มีทั้งหมด 260 เมกะวัตต์
นอกจากนั้น หลังจากที่บริษัทได้ PPA โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์มาแล้ว 5 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มเติมอีก 10-20 เมกะวัตต์
นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจะไม่มีการเพิ่มทุนจนกว่าจะถึงปี 63 เนื่องจากบริษัทยังมีเครื่องมือทางการเงินหลายรูปแบบ โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้เตรียมออกหุ้นกู้อีก 2,700 ล้านบาท และมอบหมายให้ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ศึกษาการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท โดยจะนำโครงการพลังงานลมขายเข้ากองทุน คาดว่าจะเห็นได้อย่างเร็วที่สุดคือช่วงครึ่งหลังของปี 60