นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อาจเจอแรง take profit เล็กน้อย โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อ่อนตัวลง จากแรง take profit หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคนก็ยังไม่มีการมองถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี ให้ติดตามกาประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต่อไป ซึ่งก็คาดว่าจะมีการใช้นโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดฯเริ่มมีความกังวลเรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญมากขึ้น แต่เชื่อว่าไม่น่าจะทำให้ทิศทางตลาดฯเปลี่ยนแปลงไป โดย Fund Flow ยังคงไหลเข้า ซึ่งตลอดเดือนนี้ Fund Flow เข้ามาแล้วเกือบ 4 หมื่นล้านบาท
พร้อมให้แนวรับ 1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,472.17 จุด ลดลง 1.58 จุด (-0.01%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,139.81 จุด เพิ่มขึ้น 29.76 จุด (+0.58%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,166.58 จุด ลดลง 2.60 จุด (-0.12%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 68.67 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 11.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 84.87 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 12.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 5.17 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.75 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ก.ค.59) 1,515.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.59 จุด (+0.70%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,176.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ก.ค.59) ปิดที่ 41.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1 ดอลลาร์ หรือ 2.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ก.ค.59) ที่ 4.38 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.90/93 แข็งค่าหลัง FED คงดอกเบี้ยตามคาด-ยังรอผลประชุม BOJ
- รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากการหารือของภาคเอกชนส่วนใหญ่มีความเห็นว่าการ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ขณะนี้ยังเร็วเกินไป โดยอยากให้ภาครัฐสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฮบริดก่อน เพราะมีชิ้นส่วนบางรายการที่สามารถใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ เช่น มอเตอร์ แบตเตอรี่ ซึ่งจะจูงใจให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศเกิดการพัฒนากระบวนการผลิตได้ในระยะเริ่มต้น
- ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เปิดเผยผลการสำรวจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ประจำครึ่งปีแรก พ.ศ. 2559 พบว่า บริษัทมีความรู้สึกต่อสภาพธุรกิจในประเทศไทยในครึ่งปีแรกปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ระดับ 7 ซึ่งเป็นบวกครั้งแรกรอบ 3 ปี นับจากปี 2556 ที่เคยติดลบระดับ 20 ขณะที่ครึ่งปีหลังคาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 17
- รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน มิ.ย. 2559 มีมูลค่า 1.81 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.07% เทียบกับเดือน มิ.ย. 2558 เป็นการติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน แต่เป็นอัตราติดลบน้อยสุดในรอบ 3 เดือน จากเดือน เม.ย. ที่ส่งออกติดลบ 8% เดือน พ.ค. ส่งออกติดลบ 4.4% ส่วนการนำเข้าเดือน มิ.ย. 2559 มีมูลค่า 1.61 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 10.11% ส่งผลให้ไทยยังเกินดุลการค้า 1,965 ล้านเหรียญสหรัฐ
- บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษทางช่องบีอิน สปอร์ตส์ เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ฤดูกาล 2016/2017-2018/2019 ครบทั้ง 380 แมตช์ตลอดฤดูกาล นอกจากนี้ ทรูยังได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกอีก 6 ลีกและ 5 ถ้วยยักษ์ รวมกว่า 1,500 แมตช์
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 สามารถจัดเก็บรายได้ได้ 1.79 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 7.84 หมื่นล้านบาท หรือ 4.6% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 10% สาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาต 4จี จำนวน 4.82 หมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 1.18 หมื่นล้านบาท หรือ 13.1% รวมทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีเบียร์ จัดเก็บสูงกว่าประมาณการ 7,610 6,090 และ 5,750 ล้านบาทตามลำดับ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยปัจจัยจากการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) หรือธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) นั้นมีผลต่อเงินไหลเข้ามายังประเทศไทยและประเทศตลาดเกิดใหม่ไม่มากเท่ากับปัจจัยจากสหรัฐ เนื่องจากคิวอีของยุโรปและญี่ปุ่นมีวัตถุประสงค์ต้องการให้สถาบันการเงินภายในปล่อยสินเชื่อสู่ระบบมากขึ้น ฉะนั้นค่าเงินบาทจึงตอบสนองกับยุโรปและญี่ปุ่นน้อย
- บอร์ด ทอท.ไฟเขียวไอทีดีชนะประมูลก่อสร้างงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ลานจอดอากาศยานประชิดอาคาร และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ 1.2 หมื่นล้าน อนุมัติกิจการร่วมค้าเอสจี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค 1.98 พันล้าน พร้อมเดินหน้าประมูลงานที่เหลือจนครบ
*หุ้นเด่นวันนี้
- BIZ (บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ราคาขาย IPO 2.90 บาท/หุ้น
บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์ ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา (Radiotherapy) และให้บริการซ่อมบำรุงรักษาชุดเครื่องมือทางการแพทย์ดังกล่าว (MaintenanceService)
- HMPRO (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 11.40 บาท ช่วง 2H59 คาดกำไรยังโตสดใสทั้ง HoH และ YoY ตามแผนขยายสาขาที่มีต่อเนื่องและเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ Home Improvement ในไตรมาสสี่ อีกทั้งธุรกิจเมกาโฮมยังมีโมเมนตัมผลดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยปี 59 คาดกำไรโต 15.9%YoY และโตต่อ 12.2%YoY ในปี 60 และมี Upside 15%
- CENTEL (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 47 บาท ช่วง 2Q59 คาดกำไรปกติโต 17.9%YoY จากการโตของรายได้ทั้งสองธุรกิจและภาษีจ่ายที่ลดลงจากปีก่อนที่มีฐานสูงผิดปกติ ส่วนช่วง 2H59 คาดกำไรยังโต YoY หลังอุตฯ เที่ยวไทยยังแข็งแกร่ง ส่วนธุรกิจอาหารยังทยอยออกสินค้าและโปรโมชั่นใหม่ๆ โดยปี 59 คาดกำไรปกติโต 7.7%YoY และมี Upside 10%
- SCC (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) "ซื้อ"เป้า 580 บาท กำไร 2Q59 ดีกว่าที่คาด บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q59 เท่ากับ 16 พันล้านบาท (+16%YoY, +19%QoQ) ถ้าไม่รวมขาดทุนจากสต็อกพบว่ากำไรแข็งแกร่งมาก ส่วนกำไรสุทธิ 1H59 คิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปี 59 แต่ไม่มีปรับประมาณการเพราะคาดว่ากำไรใน 2H59 จะอ่อนลงจากการปิดซ่อมโรงงานโอเลฟินส์ตามแผนเป็นเวลา 40 วัน นอกจากนี้ บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 8.5 บาท/หุ้น (อัตราการจ่าย 35% ของกำไรสุทธิ) กำหนด XD 8 ส.ค.59 ชำระเงิน 25 ส.ค.59
- BCP (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 41 บาท คาดผลการดำเนินงาน 2Q/59 จะมีกำไรสุทธิ 2,075 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานฟื้นตัวขึ้น จากผลกำไรจากสต็อกน้ำมันจำนวนมาก ในขณะที่ค่าการกลั่นพื้นฐานยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงใน 2H/59 แต่กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าและสถานีบริการน้ำมันยังคงสม่ำเสมอ พร้อมคาดผลการดำเนินงานในปี 59 มีแนวโน้มทรงตัวจากปี 58 โดยผลจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนจำนวน 46 วันในช่วงวันที่ 8 ก.พ.-24 มี.ค. 59 ส่งผลให้ปริมาณผลิตปี 59 คาดว่าจะลดลงเป็น 96 KBD