(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้พักฐานเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคหลัง Fund Flow ชะลอ-กังวลการลงประชามติร่างรธน.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 3, 2016 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะพักฐาน ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ก็จะติดลบกัน เนื่องจาก Fund Flow ได้ชะลอลง อีกทั้งตลาดบ้านเราก็มีความกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ด้วย

นอกจากนี้ ตลาดฯกำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือไม่ หากมีการผ่อนคลายก็จะช่วยหนุนตลาดฯให้รีบาวน์ได้

อย่างไรก็ดี มองแนวรับที่ 1,490 จุด น่าจะทรงตัวหรืออาจมีรีบาวน์กลับได้บ้าง ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,520 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,313.77 จุด ลดลง 90.74 จุด (-0.49%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,137.73 จุด ลดลง 46.47 จุด (-0.90%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,157.03 จุด ลดลง 13.81 จุด (-0.64%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 164.17 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 8.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 385.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 67.94 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 10.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 28.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.79 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ส.ค.59) 1,497.51 จุด ลดลง 15.11 จุด (-1.00%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 125.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ส.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ส.ค.59) ปิดที่ 39.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 55 เซนต์ หรือ 1.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ส.ค.59) ที่ 3.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.77/79 จับตาประชุมกนง.-ตัวเลขศก.ต่างประเทศ มองกรอบ 34.75-34.90
  • ก.พลังงานกำหนดกรอบเวลาบริหาร 2 แหล่งก๊าซเอราวัณ-บงกช ที่จะ สิ้นสุดอายุสัมปทานปี 65-66 คาดจะเปิดประมูลได้ภายใน มี.ค.-มิ.ย. 2560 เผยตัวเลขค่ารื้อถอนแท่นขุดเจาะ 2 แหล่งสูงถึง 2.45 แสนล้านบาท ด้าน กมธ. ปิโตรเลียม จ่อขอมติ สนช. ขยายเวลาถกกฎหมายปิโตรเลียม ออกไป 60 วัน
  • คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีมติอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ วงเงินรวม 28 ล้านล้านเยน (ราว 9.58 ล้านล้านบาท) ในจำนวนนี้เป็นมาตรการทางการคลัง 13.5 ล้านล้านเยน (ราว 4.62 ล้านล้านบาท) รวมถึงการแจกเงินผู้มีรายได้ต่ำ 22 ล้านคน คนละ 1.5 หมื่นเยน (ราว 5,213 บาท) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังซบเซา
  • เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ได้ออกแถลงการณ์ค้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดซองประกวดราคาโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหิน ซึ่งมีกลุ่มกิจการค้าร่วมพาวเวอร์ คอนสตรัคชั่น คอร์เปอเรชั่น ออฟ ไชน่า และบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด และ กฟผ.จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลภายใน 3 เดือน
  • ประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร. ยังคงกรอบอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 3-3.5% ภายใต้การส่งออกที่ไม่ขยายตัว-ติดลบ 2% ทั้งนี้เศรษฐกิจสหรัฐที่ทยอยฟื้นตัวทำให้ตลาดการเงินกลับมาคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี 2559 สวนทางกับนโยบายของธนาคารกลางอื่น ที่มีแนวโน้มจะผ่อนคลายเพิ่ม
  • เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2559 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้ส่งเสริมการผลิตใน 3 ประเภท คือ รถยนต์นั่งไฟฟ้า รถยนต์นั่งไฟฟ้าขนาดเล็ก และรถโดยสารไฟฟ้า พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง และสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ไปจัดทำแผนส่งเสริมและมาตรการจูงใจให้เอกชนลงทุน
  • ผู้ว่าการฯ ธปท.เผยเพิ่มบทบาทกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ แก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน สร้างเครื่องมือและกลไกครบถ้วน แย้มมีการเพิ่มอัตราเงินนำส่ง ยกตัวอย่างต่างประเทศให้ระบบสถาบันการเงินดูแลกันเอง ให้ผู้ถือหุ้นกู้ร่วมรับผิดชอบภาระ แจ้งเม็ดเงิน FDI ยังไหลเข้าไทย แต่ติดลบหนักครึ่งแรกเกิดปัจจัยพิเศษต่างชาติขายหุ้น "บิ๊กซี" นำเงิน ออกไทย
  • "โกวิท สัจจวิเศษ" เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ครึ่งแรกปีนี้ กองทุนประกันสังคม มีเงินลงทุนรวม 1.46 ล้านล้านบาท มีผลตอบแทนที่รับรู้แล้ว 25,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,949 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.1% ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลตอบแทน 1.86%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BH (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 220 บาท ช่วง 2H59 คาดกำไรกลับมาโตเด่นอีกครั้ง หลังปกติช่วง 3Q59 เป็นพีคของกำไรปีนี้ตามฤดูกาลและช่วง 4Q59 ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษดังเช่นช่วง 4Q58 และเป็นหุ้น Laggard โดยปัจจุบันเทรด PER ปี 59 ที่ 35x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 43x อีกทั้งมี Upside 25% และมีเงินปันผลจ่ายระหว่างกาล 0.95 บาท (XD 15 ส.ค.)
  • FPI (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 6 บาท แนวโน้มรายได้และกำไร Q2/59 จะขยายตัวขึ้นมากตามการเพิ่มกำลังการผลิตรวมถึง order จาดยุโรปและอินเดียที่เข้ามามากขึ้น และมี Catalyst การสร้างโรงงานในอินเดียงบ 160 ลบ. ที่คาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วง Q4/59 (ผู้บริหารคาดคืนทุนใน 3 ปี) ด้านโรงไฟฟ้า Biomass ร่วมกับพันธมิตรในโซนภาคใต้ที่ตั้งเป้า 120 MW ซึ่งกกพ.จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติรอบแรกจำนวน 36 MW ใน 5 ส.ค. และประกาศผู้ได้คัดเลือกในวันที่ 25 ส.ค.
  • BLA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 43 บาท คาดเบื้องต้น 2Q59 พลิกเป็นกำไรไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท จาก 1Q59 ที่ขาดทุนสุทธิ 6.9 พันล้านบาท จากการกลับรายการเงินสำรองเบี้ยประกันชีวิตส่วนเกินที่มีอยู่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคปภ.เพิ่งอนุมัติให้ใช้เกณฑ์ใหม่ ทำให้การตั้งสำรองน้อยลง การกลับรายการจึงเป็นไปได้ตั้งแต่ 0-1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันผลตอบแทนจากการลงทุนดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ชดเชยยอดขายเบี้ยใหม่ที่ชะลอตามฤดูกาลได้ โดยมีแนวโน้มปรับเพิ่มกำไรและราคาพื้นฐาน
  • AOT (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) เป้า 470 บาท คาดกำไรหลัก 3Q59 (ปิด มิ.ย.59) แกร่งต่อเนื่องเพิ่ม 17% y-o-y เป็น 4.8 พันล้านบาท แรงสนับสนุนมาจากรายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ปรับลดลง แม้คาดการณ์กำไรหลัก 3Q59 อ่อนลง 15.6% q-o-q แต่ไม่น่ากังวล เพราะเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ จำนวนผู้โดยสารต่างประเทศกลับมาเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก (double digits) ได้อีกครั้งในเดือน ก.ค.59 ที่ผ่านมาเป็น 12.9% y-o-y หลังจากเดือน พ.ค.และมิ.ย.ที่เติบโตหลักเดียวคือ +9.5% และ +7.5% ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ