ทั้งนี้ มองว่ามีโอกาสที่ประชาชนจะรับ
ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นช่วยสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นทางด้านการเมืองที่หากมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาจะทำให้การเลือกตั้งสามารถเกิดขึ้นได้ในปี 60 และยังช่วยหนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯของไทยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในปี 60 ที่มองว่าดัชนี
SET จะอยู่ที่ 1,600 จุด แต่การปรับขึ้นก็จะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก
ส่วนกรณีที่ประชาชนไม่รับ
ร่างรัฐธรรมนูญ ก็คาดว่าตลาด
หุ้นไทยอาจจะปรับตัวลงบ้าง เนื่องจากจะมีความไม่ชัดเจนทางการเมืองเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นลดลง กระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย ซึ่งในกรณีนี้คาดว่าดัชนี
SET ในปี 60 จะอยู่ที่ 1,450 จุด แต่ในระยะยาวยังมองว่าตลาด
หุ้นไทยมีทิศทางที่ดี เนื่องจากสภาพคล่องของเงินในตลาดยังมีอยู่มาก จากมาตรการของธนาคารขนาดใหญ่ในต่างประเทศที่อัดฉีดเม็ดเงินออกมา อีกทั้งคาดว่าจะมีกระแสเงินในตลาดตราสารหนี้ไหลออกมาในตลาดหุ้น เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนของตราสารหนี้ในประเทศใหญ่ติดลบ ทำให้จะมีกระแสเงินไหลออกมาอีกมาก
"ตลาดหุ้นช่วงนี้เป็นแบบ Bull Market ซึ่งนักลงทุนจะเริ่ม switch จากตลาดตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนติดลบมาลงทุนในตลาดหุ้นที่ยังให้ผลตอบแทนที่ดี มองว่าในระยะยาวยังดีอยู่ และเงินที่ไหลเข้าก็ยังมีโอกาสที่ไหลเข้าตลาดหุ้นได้อยู่ ถ้าการเลือกตั้งเรามีแผนที่แน่นอนและเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดี ก็จะเป็นผลดีในระยะยาว"นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นในระยะสั้นมองว่าในช่วงนี้อาจจะมีแรงขายออกมาบ้าง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังผลประชามติกรณีอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ออกมาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ประกอบกับผลตอบแทนในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐฯของตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 20% ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามด้วย อย่างไรก็ตามมองว่าดัชนี SET ในปีนี้ยังสามารถยืนได้ในระดับกว่า 1,500 จุด
ส่วนดีลการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่บล.ทิสโก้มีอยู่มือมีจำนวน 3-4 บริษัท เป็นบริษัที่จะเข้าจดทะเบียนใน SET ทั้งหมด ซึ่งจะมีอีก 1 บริษัทที่จะเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้
--อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/วิลาวัลย์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--