นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสเดินหน้าสนับสนุนงาน Startup Thailand & Digital Thailand ระดับภูมิภาค จัดโรดโชว์ให้ความรู้ และเปิดรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับเอไอเอส โดยเตรียมบุกตลาดในระดับภูมิภาคไปร่วมจุดประกายและเปิดมุมมองทางธุรกิจให้กับคนรุ่นใหม่ เจ้าของธุรกิจ และสตาร์ทอัพในต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดใน 3 หัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.59 โดยคาดหวังว่าจะมีผู้ที่สนใจราว 50% ขณะที่วางงบ Co-Marketing เบื้องต้น 20-30 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและกระจายโอกาสให้คนไทยทั่วประเทศได้เห็นถึงพลังของกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่นำไอเดียผนวกกับเทคโนโลยี มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และสร้างโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาในการใช้ชีวิตให้กับคนในท้องถิ่น ตลอดจนการขยายตลาดและฐานลูกค้าไปยังต่างจังหวัด ซึ่งเอไอเอส เชื่อมั่นว่าลักษณะการทำงานของสตาร์ทอัพจากนี้จะสามารถ Transform รูปแบบการเป็น Digital Creator ที่สอดคล้องกับกระแสของ VDO Content
"เราเชื่อว่าพลังไอเดียของคนรุ่นใหม่ สามารถสร้างคอนเทนต์และธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นได้ทุกวันอย่างไร้ข้อจำกัดทั้งเรื่องเวลาและสถานที่ ด้วยโครงข่ายดิจิทัล ทั้ง Mobile และ Fixed broadband ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ตลาดผู้ใช้มือถือ และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์และบริการ มีการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน อย่างก้าวกระโดด เห็นได้จากกระแสการเติบโตของธุรกิจ Tech Startup ในเมืองไทยซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาสร้างเป็นบริการเพื่ออำนวยความสะดวกหรือแก้ปัญหาในการใช้ชีวิตด้านต่างๆ ให้กับผู้คน ซึ่งเอไอเอสได้ให้การสนับสนุนและผลักดันบริการออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา"นายปรัธนา กล่าว
นายปรัธนา กล่าวว่า หนึ่งในดิจิทัลคอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก คือ วีดิโอ ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ทรงพลังไร้อุปสรรคทางด้านภาษาและภูมิศาสตร์ สามารถเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากทั้งที่อยู่ห่างไกลกันได้ เอไอเอสเห็นเทรนด์ใหม่ที่ผู้บริโภคทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ พร้อมส่งแชร์ให้คนบนโลกออนไลน์ติดตามได้ทุกที่ทุกเวลา
เอไอเอส ยังยกระดับการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ไปอีกขั้น โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมเป็น Content Creator สร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์ที่มีคุณค่าให้กับตลาดผู้ใช้มือถือในประเทศไทยและเผยแพร่สู่ตลาดระดับภูมิภาค จึงได้จัดโครงการ “The 5 - Min VDO Challenge" ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มสิงเทล ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็นสองระดับคือ หาผู้ชนะระดับประเทศ จำนวน 2 ทีม เป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับภูมิภาค ร่วมกับผู้ชนะจากโอเปอร์เรเตอร์อื่นในกลุ่มสิงเทล รวม 14 ทีม 7 ประเทศทั่วโลก ด้วยโจทย์เดียวกันในหัวข้อ “Connecting Live" โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการเชื่อมต่อผู้คนทั่วโลกด้วยคอนเทนต์วิดีโอที่มีคุณภาพและสร้างสรรค์
ผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานคลิปวิดีโอ ในหัวข้อ “Connecting Live – เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง" ความยาวไม่เกิน 5 นาที ไม่จำกัดรูปแบบและแนวทาง ไม่จำกัดอายุ จะเดี่ยวหรือทีมก็ได้ มาที่เว็บไซต์ www.ais.co.th/the5minvideochallenge เปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.-9 ก.ย. 59 โดยบริษัทจะมีความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้ชนะการประกวด โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะร่วมทำงาน เพื่อการผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับเอไอเอสในอนาคต หรือผลิตภาพยนตร์เรื่องสั้นให้กับเอไอเอส คาดว่าจะสรุปความชัดเจนดังกล่าวได้เร็ว ๆ นี้