นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเช่นเดียวกันตลาดยุโรป ภายหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีนโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 6 หมื่นล้านปอนด์ ระยะเวลา 6 เดือน และจะเข้าซื้อหุ้นกู้เอกชนอีก 1 หมื่นล้านปอนด์
ด้านตลาดสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดตลาดทรงตัว เนื่องจากรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะประกาศคืนนี้ นอกจากนี้ ตลาดฯยังน่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี มองว่าจะยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้ามายังภูมิภาคเอเชียอีกจากสภาพคล่องที่สูงขึ้น
ส่วนบ้านเราคงต้องติดตามผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.ดังนั้น ตลาดฯ จึงอาจจะปรับตัวขึ้นไปได้ไม่มากนัก พร้อมให้แนวรับ 1,502-1,493 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,520 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,352.05 จุด ลดลง 2.95 จุด (-0.02%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,166.25 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด (+0.13%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,164.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.46 จุด (+0.02%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 24.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.65 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 128.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.05 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ส.ค.59) 1,507.93 จุด เพิ่มขึ้น 0.46 จุด (+0.03%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,004.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ส.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ส.ค.59) ปิดที่ 41.93 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 2.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ส.ค.59) ที่ 3.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.86/94 แนวโน้มแกว่งแคบ รอความชัดเจนผลประชามติสุดสัปดาห์นี้
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ค. 2559 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 72.5 ถือเป็นการปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และดีขึ้นทุกรายการ ทั้งดัชนีเชื่อมั่นรายได้ในอนาคต ดัชนีความเชื่อมั่นโอกาสในการหางานทำ ดัชนีการซื้อบ้านและรถยนต์ใหม่ รวมทั้งดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว
- ธปท.พร้อมมีเครื่องมือในการดูแลค่าเงิน-เงินทุนเคลื่อนย้าย เผยเงินไหลเข้าตลาดหุ้น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะเดือน ก.ค.เข้ามาครึ่งหนึ่ง ตลาดพันธบัตรอีก 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปลื้มธุรกิจข้ามชาติสนใจเข้าลงทุนต่อเนื่อง เผยไทยยังมีพื้นที่รองรับอีกเพียบ
- "บุญทักษ์ หวังเจริญ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ภาคเอกชนยังไม่มีการลงทุนอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลัง ทำให้ธนาคารตัดสินใจปรับลดเป้าหมายสินเชื่อรวมในปีนี้ลงจากเดิมโต 8-10% เหลือ 6-8% หลังจากครึ่งปีแรกสินเชื่อเติบโตเพียง 2% โดยครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตได้จากสินเชื่อเอสเอ็มอี
- สศก.เผยบราซิลยื่นฟ้องไทยต่อดับเบิลยูทีโอข้อหาไทยอุดหนุนอุตฯอ้อยน้ำตาล ทำราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกตกต่ำอย่างหนัก อุตฯน้ำตาลระบุ 3 กระทรวงทั้งเกษตรฯ พาณิชย์ อุตฯต้องเร่งหาทางรับมือก่อนกระจายไปยังสินค้าอื่นๆ
- กนอ.ชี้นิคมฯ ในเขต ศก.พิเศษสระแก้วเปิดปี 61 ปลื้มมีคนสนใจแล้วกว่า 30 ราย คาดอีก 3 ปีเต็มพื้นที่แน่นอน เอกชนหวังใช้เป็นฐานส่งของไปกัมพูชา เล็งผุดศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มโอกาสแข่งขันเวียดนาม พร้อมปั้นดีไซน์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หวังยกไทยฮับอาเซียน
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 186 บาท แจ้งกำไรสุทธิงวด 2Q59 เท่ากับ 9,598 ล้านบาท (+19.0%QoQ,-2.6%YoY)ดีกว่าที่คาดไว้ราว 4% พร้อมคงประมาณการปี 59 ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท หลังงบ 1H59 คิดเป็น 54.4% และผลประกอบการ 2Q59 ของ ADVANC ยังคงแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม Mobile Operator ประกอบกับมีการจ่ายปันผลในอัตราที่จูงใจ โดยล่าสุดบริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงิน 5.79 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 3.3%
- BCH (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไร 2Q59 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy และจะเติบโตอย่างโดดเด่นในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ คาดกำไรปี 59 นี้ จะเติบโตก้าวกระโดดจาก การถึงจุดคุ้มทุนของ รพ. WMC การเติบโตของ รพ.ในเครือทั้งจำนวนผู้ป่วยนอกและใน การขึ้นค่ารักษาพยาบาล และจำนวนผู้ป่วยประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น
- IVL (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 50 บาท คาดจะมีกำไรเติบโตเฉลี่ยสูงขึ้นเป็น 33% CAGR ในปี FY59-61 จาก 1) ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 70% เป็น 11mtpa ในปี 57-61, 2) อัตราส่วน EBITDA ที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 120 เหรียญสหรัฐ/ตันจากการมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ HVA มาร์จินสูงเพิ่มขึ้น รวมทั้งการซื้อกิจการโพลีเอสเทอร์นอกภูมิภาคเอเชีย และ 3) ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเนื่องจากบริษัทมีโครงสร้างต้นทุนต่ำและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พร้อมคาด ROE จะเพิ่มขึ้นจาก 2.5% ในปี 57 เป็น 15% ในปี 61