สำหรับภาพรวมธุรกิจค้าปลีกของบริษัทฯ ในปี 59 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จากการรับรู้รายได้จากการขายผ่านสาขาเก่าของบริษัทฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 12 สาขา และในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 3 สาขา โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเปิดสาขาใหม่แล้ว 2 สาขา ที่ อ.เทิง และ แม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ส่วนสาขาที่ 3 อ.เมือง ก็ยังเป็นไปตามแผน คาดจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3/59 ทำให้สิ้นปีนี้ ธนพิริยะจะมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 15 สาขา เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านสาขาให้สูงขึ้นอีก สนับสนุนความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการขายส่งผ่าน สำนักงานใหญ่
ด้านนายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ TNP กล่าวว่า ผลประกอบการบริษัทฯ งวดไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 74.88 โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 3.84 และสำหรับงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 24.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.15 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 68.72 โดยมีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 3.50 บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นและมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของสาขาเก่า และการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง
โดยรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 2/2559 อยู่ที่ 363.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 40.65 ล้านบาทหรือร้อยละ 12.60 และสำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 712.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 81.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.86
ขณะที่กำไรขั้นต้นงวดไตรมาส 2/2559 อยู่ที่ 47.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 11.72 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.04 และมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 12.99 และสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 89.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 21.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.13 และมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 12.52
"ผลงานไตรมาส 2/59 และครึ่งปีแรกที่ออกมา รายได้และกำไรเติบโตอย่างน่าประทับใจ และถือว่าเป็นไปตามแผนงานที่บริษัทฯ วางไว้ โดยการเติบโตของรายได้เป็นผลจากการเปิดสาขาใหม่ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบ รับเป็นอย่างดี ขณะที่สาขาเดิมก็มียอดขายเติบโตขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยอดซื้อต่อบิลและจำนวนบิลซื้อที่เพิ่มมากขึ้น โดยการเติบโตของรายได้จากสาขาเดิม (SSS Growth) ในไตรมาส 2/59 เติบโตที่ 5.1% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายผ่านสาขา มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ารายได้จากการขายส่งผ่านสำนักงานใหญ่ นอกจากนี้ การได้รับค่าสนับสนุนการขายจากผู้จำหน่าย เนื่องจากบริษัทฯ มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรสุทธิที่ออกมาเติบโตในอัตราที่ดีได้" นายธวัชชัย กล่าว