นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) เชื่อมั่นว่าปี 59 ทำรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่ 15,000 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำรายได้แล้วมากกว่า 50% ของเป้าหมาย ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้มากกว่า 3%
ขณะที่ดัชนีขี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวดีขึ้นและส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ การบริโภคและลงทุนภาคเอกชน หนี้ภาคครัวเรือนเติบโตชะลอลงเหลือต่ำกว่า 5% โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อผลผลิตรมวลรวมในประเทศ (GDP) ณ ไตรมาส 1/59 ลดลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี เหลือ 81.1% ทำให้ประชาชนเริ่มมีความสามารถในการกู้ซื้อบ้านมากขึ้น
"สำหรับภาพระยะยาวไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเราจะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคุณภาพจะเติบโตควบคู่ไปกับปริมาณลูกค้าที่มากขึ้นทุกปี"นายณัฐพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท พร้อมกับคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า SC ได้ปรับแผนพัฒนาโครงการใหม่ปีนี้เพิ่มจากเดิม 10 โครงการ เป็น 11 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 25,000 ล้านบาท โดยได้เพิ่มโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาอีก 1 แห่ง ส่วนแนวราบยังคงจำนวน 8 โครงการเท่าเดิม ซึ่งในครึ่งปีแรกได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ
หลังจากผ่านครึ่งปีแรกไปแล้ว บริษัทได้ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเป็น 8 พันล้านบาท เน้นในทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก จากเดิมตั้งงบไว้ 6 พันล้านบาท ซึ่งงบซื้อที่ดินในปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา ๆ ราว 30-40% จากปี 58 ใช้งบซื้อที่ดินประมาณ 4-5 พันล้านบาท ปัจจุบันบริษัทได้ใช้งบซื้อที่ดินไปแล้ว 70% และที่เหลือ 30% จะทำรายการในไตรมาส 3/59 เพื่อเร่งการพัฒนาโครงการ เพื่อมุ่งไปสู่ยุทธศาสตร์ของบริษัทที่ตั้งเป้าหมายในปี 62 จะมีรายได้ 2 หมื่นล้านบาท
"เป็น timing ที่ดี ช่วงนี้ดอกเบี้ยต่ำ ถ้าซื้อที่ดินแปลงใหม่ก็อยากจะซื้อเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต เพราะการที่จะมีรายได้ 2 หมื่นล้านบาทในปี 62 เราก็ต้องพัฒนาโครงการต่อไป และขยับวงเงินในการซื่อทีดินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ" นายณัฐพงษ์ กล่าว
สำหรับยอดขายในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่กว่า 6 พันล้านบาท จากเป้าทั้งปี 1.5 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะทำได้ตามเป้า เพราะมองว่าเดือน พ.ค.-ก.ค.59 แม้จะไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ แต่ยังมีแรงส่งต่อเนื่องทำให้ยอดขายยังไปได้ดี
นายณัฐพงษ์ กล่วว่า จากการที่บริษัทตัดสินใจเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีก 1 โครงการในทำเลชิดลม มูลค่า 8 พันล้านบาทในไตรมาส 4/59 เพื่อเป็นารรองรับการบันทึกรายได้ในปี 60 และปี 61 ซึ่งมั่นใจการขายโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากโครงการภาครัฐที่จะเกิดขึ้นจะช่วยให้การลงทุนหลายอย่างดีขึ้น และดอกเบี้ยก็ยังไม่ปรับขึ้น น่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 5 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้สัดส่วน 30% ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ในปีถัดไป
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ วงเงิน 1.0 -1.5 พันล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่ทยอยครบกำหนดในปีนี้ประมาณ 1.3 พันล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนหุ้นกู้ราว 50% ของหนี้สิน ช่วยทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 4% ซึ่งการออกหุ้นกู้จะช่วยลดต้นทุนได้อีก โดยปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ราว 1.25 เท่า ถือว่าไม่สูงมาก