นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงกว่า 20% จากจุดสูงสุดเมื่อต้นเดือนมิ.ย. ที่ราว 51 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพราะถูกกดดันจากปริมาณสต็อกน้ำมันกลั่นสำเร็จในสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง และปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่กลับมาเพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
ราคาน้ำมัน WTI ในปัจจุบันที่ระดับประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เริ่มมี Downside จำกัด โดยพิจารณาจากสถานะซื้อสุทธิของนักเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Non-Commercial Net Long Positions) ซึ่งลดลงเป็นจำนวนถึง 9.5 หมื่นสัญญาในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ใกล้เคียงกับในช่วงเดือนต.ค.58 -ม.ค.59 ที่นักเก็งกำไรมีการลดสถานะซื้อสุทธิลงประมาณ 1 แสนสัญญา การลดลงของสถานะซื้อสุทธิดังกล่าว ชี้ว่าเทรดเดอร์ที่เก็งกำไรในตลาดน้ำมันได้ทำการขายสัญญาน้ำมันในตลาดซื้อขายล่วงหน้าไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งน่าจะทำให้แรงขายเริ่มซาลงและราคาน้ำมันเริ่มยืนได้หลังจากนี้
โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาแรงซึ่งทำให้ Downside เริ่มมีจำกัด จึงแนะนำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เริ่มกลับเข้าเทรดดิ้งระยะสั้น โดยคาดว่าราคาน้ำมัน WTI จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงที่เหลือของปีนี้