นายสามิตต์ ผลิตกรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ (SNC) เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจกำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อน จากปีก่อนทำได้ 409.86 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะอยู่ที่ราว 12% โดยจะมาจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เป็นไปตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20-25% และจะส่งผลทำให้สัดส่วนรายได้น่าจะเติบโตขึ้นเป็น 15-20% จากเดิม 10-12% รวมถึงธุรกิจผลิตแม่พิมพ์พลาสติก ก็มีการเติบโต โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15-20%
ขณะที่รายได้ปีนี้ คาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 8.1 พันล้านบาท จากคำสั่งซื้อในธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วน (OEM) ปรับตัวลดลง ทำให้สัดส่วนรายได้จาก OEM ปีนี้ลดลง จากเดิมมีสัดส่วนรายได้อยู่ราว 50%
ทั้งนี้บริษัทฯได้ปรับเพิ่มงบลงทุนเป็น 800 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ที่ 600 ล้านบาท ในการดำเนินการย้ายฐานการผลิตใหม่ไปยังจ.ระยอง จากเดิมตั้งอยู่ที่จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในช่วงไตรมาส 3/59 ทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าลดลง และส่งผลดีต่อตัวกำไรสุทธิ ประกอบกับจะดำเนินการก่อสร้างโรงงานน้ำประปา ในบริเวณฐานการผลิตแห่งใหม่อีกด้วย เพื่อรองรับสายการผลิตแม่พิมพ์พลาสติกซึ่งจะสามารถสำรองน้ำได้ 1 แสนลูกบาศก์เมตร และน่าจะส่งน้ำได้ในเดือนต.ค.นี้
นอกจากนี้บริษัทฯก็อยู่ระหว่างการเจรจารับงานจากลูกค้ารายใหม่ จำนวนหลายราย และอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อขยายช่องทางการเติบโตของรายได้ให้กับในอนาคต แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ รวมถึงบริษัทฯได้มีการเซ็นสัญญารับงานผลิตตู้น้ำหยอดเหรียญอัตโนมัติ ในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 88 ตู้ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท คาดจะเริ่มส่งมอบงานได้ในช่วงเดือนต.ค.นี้ ซึ่งหากลูกค้าประสบความสำเร็จ ก็คาดหวังว่าจะได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต หรือเข้ามาอีกประมาณ 400-500 ตู้
"ทั้งปีมองว่ากำไรน่าจะดีกว่าปีก่อน และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 12% จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และผลิตแม่พิมพ์พลาสติก ที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และน่าจะเห็นได้ชัดในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งสินค้าในกลุ่มดังกล่าวมี Gross Profit margin อยู่ที่ 20-25% และ 15-20% ตามลำดับ ขณะที่รายได้ปีนี้น่าจะทำได้ใกล้เคียงปีก่อน จากออเดอร์ OEM อ่อนตัวลง" นายสามิตต์ กล่าว