นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"โดยเชื่อว่าผลการลงประชามติที่ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อการขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม หลังนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าไทยจะมีการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปี 60 ตามโรดแมพที่นายกรัฐมนตรีวางไว้ ซึ่งจะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนดีขึ้น และเอื้อให้นักลงทุนจากทางฝั่งตะวันตกเข้ามาลงทุนมากขึ้น นอกเหนือจากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากเอชียทั้งญี่ปุ่นและจีน
"ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่านักลงทุนรู้สึกอย่างไร แต่เชื่อว่ากรณีดังกล่าวจะทำให้นายกฯเดินได้ตามโรดแมพการเลือกตั้งที่วางไว้ เมื่อเป็นไปตามโรดแมพแน่นนอน ผมเชื่อว่าจะดีขึ้นถ้ามีการเลือกตั้ง ภาพลักษณ์ก็จะออกมาดี...เป็น good sign บรรยากาศการลงทุนจะดีขึ้นกว่าเดิม นักลงทุนเกิดความสบายใจมากขึ้น ในเมื่อมีความสบายใจก็จะนำพาสิ่งดี ๆ มาหาเรา"นายวิบูลย์ กล่าว
นายวิบูลย์ เห็นว่าความสบายใจของนักลงทุนที่เกิดขึ้น มาจากความคาดหวังว่าตลอดช่วงจากนี้จนถึงการเลือกตั้ง บรรยากาศทางการเมืองน่าจะสงบ และไม่น่าจะมีเหตุวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น และประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ และเชื่อว่าจะทำให้มีนักลงทุนจากทางฝั่งตะวันตกเข้ามามากขึ้นด้วย หลังภาพการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น
สำหรับในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมอมตะนั้น ปัจจุบันก็มีนักลงทุนติดต่อเข้ามาเยี่ยมชมนิคมฯ และน่าจะมีการเจรจาเพื่อซื้อขายที่ดินต่อไปหลังจากที่เริ่มเห็นทิศทางการเมืองในประเทศดีขึ้น แต่ในเบื้องต้นยังคงยืนยันเป้าหมายการขายพื้นที่ในปีนี้ที่ระดับ 1 พันไร่ เพิ่มขึ้นจากกว่า 800 ไร่ในปีก่อน