นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เออีซี (AEC) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยบวกหลังการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญผ่านพ้นไป โดยคาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ระหว่าง 1,470-1,550 จุด
ทั้งนี้ ประเมินว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังสามารถลงทุนได้ จากปัจจัยหนุนนโยบายการเงินโลกยังอยู่ในภาวะที่สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (Loosening Monetary Condition) โดยเฉพาะนโยบายการเงินของกลุ่มประเทศยุโรปและอังกฤษ ซึ่งได้รับผลกระทบของภาคเศรษฐกิจจริงจากการตัดสินใจยุติการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
ส่วนปัจจัยกดดันที่น่าจับตา คือ ประเด็นของ Global Safe Haven Asset อยู่ในภาวะฟองสบู่ และการเลือกตั้งของสหรัฐ รวมถึงความเห็นที่ขัดแย้งเกี่ยวกับความเข้มแข็งของสถาบันการเงินในยุโรป ระหว่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นอัตราตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ บริษัทฯแนะนำลงทุนในกลุ่ม Commercial Operation Date (CoD) บริษัทที่มีโครงการเริ่ม Operate จะมีแนวโน้มกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ EA, IRPC และหุ้นในกลุ่มที่จะมีการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในธุรกิจโรงไฟฟ้า ได้แก่ TPIPL, BANPU, BCP หรือมีแนวโน้มได้งานในต่างประเทศอย่าง GPSC
อีกทั้ง ยังแนะนำเพิ่มเติมให้เลือกลงทุนกลุ่มบริษัทที่ยังมีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงได้แก่ GFPT,ADVANC และบริษัทที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 60 เติบโต และมี Market Cap ในระดับสูง ซึ่งเป็นบริษัทที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ BJC, CBG