KTBST คาด SET สัปดาห์นี้แกว่ง 1,550-1,566 จุด เงินทุนยังไหลเข้ารับผลประชามติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 9, 2016 10:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินทิศทางตลาดจากผลของประชามติที่ออกมาเป็นบวกต่อตลาดหุ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้มีเงินไหลเข้าตลาดหุ้นทั้งจากนักลงทุนต่างประเทศและกองทุนในประเทศ ดัชนีฯ จึงมีแนวโน้มที่จะขึ้นแตะเป้าหมายของที่คาดไว้ในสัปดาห์นี้ที่ 1,550-1,566 จุด

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ มองว่าด้วยเงินลงทุนที่จะกระจายไปในหุ้นหลายๆกลุ่ม โดยมีกลุ่มนำคือ หุ้นขนาดใหญ่ของแต่ละกลุ่มและหุ้นที่กำไรออกมาดี ทำให้หุ้นส่วนใหญ่ของตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น การลงทุนจึงยังคงเป็นในเรื่องของ "จังหวะ" มากกว่า เพราะราคาหุ้นน่าจะเปิดสูง การเข้าลงทุนจึงควรรอเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาในระหว่างวัน โดยเน้นหุ้นที่มีวอลุ่มซื้อขายมากๆไว้ก่อน แนะหุ้นสำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น ได้แก่ BBL , ADVANC , PTTEP , BANPU , CPALL , BA , PTL , MC

นายมงคล กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ แรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้าที่เข้ามาในตลาดหุ้นไทยหลังทราบผลการทำประชามติ จะยังคงมีเข้ามาในตลาดได้อีก ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อไปได้ และผลการทำประชามติจะยังเป็นปัจจัยชี้นำตลาดหุ้นไทยติดต่อกันเป็นวันที่สอง

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ การร่วงลงของดัชนี Dow Jones ในคืนที่ผ่านมา มองว่าเป็นการขายทำกำไรหลังดัชนีขึ้นมามาก โดยการเอาเรื่องตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีในวันศุกร์มาเป็นประเด็น ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทในตลาดนั้นออกมาดีกว่าตลาดคาดมากพอควร บล.KTBST จึงไม่ได้กังวลต่อทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันนี้

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ที่ดีดตัวขึ้นมาเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของตลาดอยู่เหมือนกัน โดยอาศัยปัจจัยจากเรื่องของการประชุมแบบไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ที่ชื่อ International Energy Forum ในวันที่ 26-28 ก.ย. ที่อัลจีเรีย แม้ OPEC จะยืนยันว่าจะไม่มีการพิจาณาเรื่องคงกำลังการผลิตน้ำมันตามข่าวที่ออกมานี้ อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นแตะ $43 เหรียญ จะเป็นบวกต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมันในวันนี้ด้วย

สำหรับตัวแปรอื่นๆ ที่จะมีผลต่อทิศทางตลาด จะเป็นเรื่องผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ที่เห็นกำไรจะโตขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ