นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า บริษัท เปียน กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ AGE ถือหุ้นทั้ง 100% เป็นผู้ผ่านเทคนิคโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังการผลิตรวม 9.9 เมกะวัตต์ (MW) คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 700 ล้านบาท ซึ่งน่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี และสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ทันกำหนดภายในปลายปี 61
บริษัทมีความพร้อมในการลงทุนจากเตรียมตัวมาเป็นเวลานานแล้ว โดยมีความชำนาญในด้านเชื้อเพลิง เนื่องจากบริษัทมีที่ดินอยู่ใน 4 อำเภอใน จ.สงขลา และบริษัทดั้งเดิมทำธุรกิจค้าขายไม้และปาล์มอยู่ในภาคใต้ จึงมั่นใจว่ามีวัตถุดิบเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในปริมาณที่เพียงพอ โดยคาดใช้ราว 1 หมื่นตัน/เดือน หรือปีละ 1.2 แสนตัน ซึ่งปัจจุบันปริมาณขายตามปกติสูงกว่านั้น
"เราผ่านรอบแรกแล้ว ก็ต้องรอรอบ 2 อีก ไม่แน่ใจเพราะคนสนใจเยอะ ซึ่งที่ยื่นก็มีโรงไฟฟ้าขนาดเล็กด้วย แต่เรามีความพร้อมและชำนาญเรื่องเชื้อเพลิงอยู่แล้ว"นายพนม กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของ AGE ไตรมาส 2/59 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยครึ่งปีแรกผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายจากที่ทั้งปีนี้ตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหินที่ 2 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ขณะที่แนวโน้มตลาดต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว และตลาดในประเทศยังมีความต้องการใช้ถ่านหิน เพราะอย่างไรก็ตามถ่านหินยังเป็นเชื้อเพลิงที่ราคาถูกที่สุด และปีที่ผ่านมาราคาลงมาต่ำมาก ประกอบกับ บริษัทก็ได้ลูกค้ารายใหม่เข้ามาด้วย
"ผลประกอบการไตรมาส 2/59 เป็นที่น่าพอใจ เพราะราคาถ่านหินก็ขยับขึ้น และบริการท่าเรือและคลังสินค้าผ่านบริษัทลูก ซึ่งปีนี้มีการให้บริการลูกค้ารายอื่นเพิ่ม รายได้ก็ไม่ออกไปข้างนอก ซึ่งรายได้ในธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผ่านครึ่งปีแรกปริมาณขายเป็นไปตามเป้าแล้ว เพราตลาดจีนและเวียดนามเริ่มกลับมาฟื้น จากปีที่แล้วต่อเนื่องต้นปีชะลอลงทั้งออร์เดอร์จีนและเวียดนามไม่ค่อยดี ช่วงนี้ออร์เดอร์เริ่มกลับมาซื้อแล้ว ประกอบกับราคาถ่านหินก็ปรับขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องรอดูครึ่งปีหลังด้วย"นายพนม กล่าว
อนึ่ง ไตรมาส 1/59 บริษัทมีรายได้รวม 946 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14 ล้านบาท