นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายรายได้ทั้งปีนี้เหลือโต 10-15% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15-20% หลังจาก 6 เดือนแรกปีนี้ยอดขายหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย
อย่างไรก็ดี แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง 59 แนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายจะเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล เหมือนกับทุกๆ ปี โดยอัตรากำไรขั้นต้นของครึ่งปีแรกอยู่ที่ 27% และจะเริ่มสูงขึ้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ระดับประมาณ 29% ในช่วงปลายปี เพราะการควบคุมการผลิตของโรงงานแห่งใหม่ลงตัว โดยปกติครึ่งปี หลังจะมีสัดส่วน 55-60% ของทั้งปี
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานคง ค้างในมือ (Backlog) 950 ล้านบาท ทั้งงานภาครัฐและงานภาคเอกชน โดยจะทยอยรับ รู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
สำหรับแผนการตลาดของบริษัทในปี 59 ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการเตรียมพร้อมรับมือจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาด LED ตลอดจนการเปิดเสรีของการค้าอาเซียนที่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว รวมทั้งบริษัทฯ มีความพร้อมและ โรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดปทุมธานี สามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาส 2/59 ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการทั้งปี 59 ของ L&E เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ใน ช่วงครึ่งปีหลัง 59 จะมาจากงานโครงการ 65% ค้าส่งค้าปลีก 27% และตลาดต่างประเทศ 8% ซึ่งรายได้ค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลอด LED และบริษัทฯ มีกำลังการผลิตหลอด LED เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดปทุมธานี
“กลยุทธ์ปีนี้เราจะเน้นขยายตลาด AEC อย่างต่อเนื่องหลังจากเมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา เราได้ขยายธุรกิจเข้าไปใน ประเทศเมียนมาร์ โดยเปิดบริษัทย่อยอย่างเป็นทางการไปแล้ว และล่าสุด บริษัทกำลังเปลี่ยนสำนักงานตัวแทนที่เวียดนามให้เป็นรูปแบบ บริษัทย่อยเช่นเดียวกับที่เปิดในเมียนมาร์ รวมถึงการเปิดสำนักงานตัวแทนที่อินโดนีเซีย คาดว่าจะรู้ผล ใน Q3-Q4 ปีนี้แน่นอน นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของ L&E ในการขยายช่องทางของธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอา เซียน ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ตลาดส่งออกโตค่อนข้างมาก มองว่าน่าจะโต เกิน 100% เทียบกับปีก่อนหน้าที่การส่งออกอยู่ที่ 114 ล้านบาท" นายปกรณ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 637 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 2% เป็นผลจากงานโครงการได้ปรับตัวลดลง 9% งานค้าส่ง/ค้าปลีกลดลง 3% แต่งานส่งออกเพิ่มขึ้น 167% การปรับตัวลดลงของงานโครงการเป็นผลจากการก่อสร้างโรงงานและอาคารพาณิชย์ได้ชะลอลง ส่วนการลดลงของงานค้าส่งและค้าปลีก เป็นผลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคได้อ่อนตัวลง สำหรับงานส่งออกที่เพิ่มขึ้น 167% นั้น เป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดในภูมิภาคอาเซียนรวมถึงการขยายตัวเพิ่มขึ้นของตลาดในประเทศออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีกำไรสำหรับงวด 11.6 ล้านบาท ลดลงจากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.7 ล้านบาท หรือลดลง 29% เป็นผลจากกำไรเบื้องต้นจากการขายและให้บริการรวมรายได้อื่นลดลง 2.4 ล้านบาท หรือลดลง 1% สาเหตุใหญ่เป็นผลมาจากยอดขายที่ปรับตัวลดลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารรวม ดอกเบี้ยจ่าย เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% เป็นผลจากการปรับเงินเดือนประจำปีและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการสร้างโรงงานและคลังสินค้า แต่บริษัทฯ สามารถประหยัดค่าเช่าคลังสินค้าที่เคยจ่ายให้บุคคลภายนอก เนื่องจากคลังสินค้าของบริษัทฯ ได้สร้างเสร็จและสามารถใช้งานได้แล้ว และที่เหลือ 0.1 ล้านบาท เป็นผลจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดลง