โบรกเกอร์แนะ "ซื้อ"หุ้นบมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นหลัง NIM ในไตรมาส 2/59 เพิ่มขึ้นมาเป็นเกือบ 4% สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สวนทางกับภาวะดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากอัตราผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อปรับเพิ่มขึ้นขณะที่ต้นทุนเงินฝากที่ลดลงต่อเนื่อง
อีกทั้งแนวโน้มของการตั้งสำรองที่ลดลงยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนผลการดำเนินงานของบริษัท โดยการตั้งสำรองที่ลดลงมาจากสัดส่วน NPL ของธนาคารมีแนวโน้มลดลง โดยในไตรมาส 2/59 NPL ของ TISCO ลดลงมาอยู่ที่ราว 3% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.2% ซึ่งประเมินทั้งปีนี้ TISCO มีโอกาสลด NPL ให้ลดลงต่ำกว่าปีก่อนมาอยู่ที่ 2.9%
อย่างไรก็ตาม การปล่อยสินเชื่อของ TISCO ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากสินเชื่อรวมในครึ่งปีแรกติดลบราว 3.1% เป็นผลมาจากการหดตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หลังยอดขายรถยนต์ยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มของสินเชื่อในครึ่งปีหลังอาจจะเห็นการฟื้นตัวได้เล็กน้อยในช่วงไตรมาส 4/59 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น
ขณะที่ราคาหุ้น TISCO ล่าสุดอยู่ที่ 52.25 บาท ลดลง 0.50 บาท (-0.95%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไททย บวก 0.07%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เคจีไอฯ ซื้อ 62
โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 61
โกลเบล็ก ซื้อ 60
ทรีนีตี้ ซื้อ 60
เอเชีย เวลท์ ซื้อ 60
บัวหลวง ซื้อ 59
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" TISCO จากการฟื้นตัวขึ้นของกำไรที่ได้รับอานิสงส์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่สูงขึ้นในไตรมาส 2/59 ประกอบกับการบริหารต้นทุนต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการที่มีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ราว 3% ในไตรมาส 2/59 จากไตรมาสก่อหน้าที่ 3.2% ซึ่งประเมินว่าแนวโน้ม NPL ในปีนี้จะอยู่ที่ 2.9% ลดลงจากปีก่อนที่ 3.2% ซึ่งจะช่วยให้ Credit Cost ของธนาคารลดลง และส่งผลดีต่อกำไร ซึ่งประเมินกำไรของ TISCO ในปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ 20% จากปีก่อน
สำหรับแนวโน้มของการปล่อยสินเชื่อของ TISCO ในปีนี้ยังประเมินว่าจะยังติดลบราว 5.3% หลังจากสินเชื่อของธนาคารติดลบ 3.1% ในครึ่งปีแรก จากความต้องการสินเชื่อที่ลดลงเป็นผลจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์หดตัวลง หลังยอดขายรถยนต์ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินแนวโน้มของการขยายตัวสินเชื่อของ TISCO ในปีหน้าจะมาจากการค่อย ๆ ฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์เป็นปัจจัยหลัก นอกจากนี้การลงทุนต่าง ๆ ของภาครัฐจะเป็นแรงหนุนทำให้ภาคเอกชนลงทุนตามและผลักดันให้สินเชื่อรายใหญ่เติบโตมากขึ้นในปีหน้าด้วย
นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล ผู้ช่วยอำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ "ทยอยซื้อ" TISCO โดย NIM ในไตรมาส 2/59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.91% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.86% สวนทางกับภาวะดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวลดลง และแนวโน้ม NPL ของธนาคารที่ลดลงมาเป็นราว 3.03% ในไตรมาส 2/59 ส่งผลให้ TISCO มีการตั้งสำรองที่ลดลง
ด้านกำไรของ TISCO ในไตรมาส 2/59 ที่ออกมานั้นมีการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนราว 20% ซึ่งเป็นผลมาจาก NIM ที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง และการตั้งสำรองที่ลดลง ส่วนแนวโน้มของการปล่อยสินเชื่อนั้นยังมีทิศทางที่อาจจะดีขึ้นได้เล็กน้อยในครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่สินเชื่อติดลบ 3.1% แต่ทั้งนี้การขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้ของธนาคารยังเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก จากแรงกดดันของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อาจจะยังมีการหดตัวอยู่ เนื่องจากการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของยอดขายรถยนต์
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก แนะนำ"ซื้อ"TISCO โดยได้มีการปรับประมาณการณ์กำไรของ TISCO ในปีนี้เพิ่มขึ้น 5% หรือมาอยู่ที่ 5 พันล้านบาท จากแนวโน้มของการตั้งสำรองที่ลดลง หลัง NPL ของธนาคารมีแนวโน้มที่ลดลงต่อเนื่อง โดย NPL ของธนาคารในไตรมาส 2/59 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 3.03% ขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยบวกจาก NIM ที่ไตรมาส 2/59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็นเกือบ 4% จากอัตราผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อปรับเพิ่มขึ้นขณะที่ต้นทุนเงินฝากที่ลดลงต่อเนื่อง
ด้านการปล่อยสินเชื่อของ TISCO ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันอยู่ จากการที่ยอดขายรถยนต์ยังไม่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้ความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อลดลงมาต่อเนื่อง ส่งผลกดดันให้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในครึ่งปีแรกออกมาติดลบ แต่แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงในไตรมาส 4/59 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่อาจจะเป็นการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น