TKN เพิ่มเป้ายอดขายปีนี้เป็นโต 25% รับตลาดจีน-เวียดนามสดใส,รายได้-กำไร Q3/59 นิวไฮต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 11, 2016 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้เป็นเติบโต 25% มาอยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เนื่องจากประสบความสำเร็จจากการขยายการส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีนและเวียดนาม ที่สินค้าของบริษัทได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศอยู่ที่ 60% และสัดส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 40% ซึ่งคาดว่าทั้งปีนี้สัดส่วนยอดขายจะยังคงอยู่ในระดับดังกล่าวต่อไป

ขณะเดียวกันในเดือนกันยายนนี้บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการ เพื่อทบทวนแผนระยะยาวที่ได้ตั้งเป้ายอดขายในปี 61 ไว้ที่ 5 พันล้านบาท ก็มีโอกาสทำได้เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะทำได้ตามเป้าในปี 60 เนื่องจากยอดขายของบริษัทในปีนี้ทำได้เข้าใกล้เป้าหมายดังกล่าวค่อนข้างมาก ประกอบกับบริษัทก็ยังคงมีการทำตลาดและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าอยู่ราว 150 หน่วย (sku) และการออกแคมเปญการตลาดกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละปีบริษัทตั้งงบการตลาดไว้ที่ 5-6% ของยอดขายรวม ขณะเดียวกันขยายสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์ ที่ปัจจุบันมี 6 สาขา ก็จะเปิดสาขาที่ 7 ย่านพระรามเก้าในเดือนกันยายนนี้

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 คาดว่ารายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องจากไตรมาส 2/59 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.11 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 184.7 ล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังตั่งแต่ไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป เป็นช่วงเริ่มสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจสาหร่ายทอดกรอบ ประกอบกับบริษัทยังมีการเพิ่มแคมเปญทางการตลาดที่มากขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัวอยู่ ทำให้บริษัทยังกังวลผลกระทบที่อาจจะมีต่อกำลังซื้อ ส่งผลให้บริษัทจะต้องมีการกระตุ้นความสนใจของลูกค้าให้เหมือนกับเป็นสินค้าที่ต้องบริโภคในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะอยู่ที่ 16% จากปีก่อนที่ 11% หลังจากอัตรากำไรสุทธิของบริษัทในครึ่งปีแรกทำได้อยู่ที่ 16.04% จากต้นทุนการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง หลังจากมีการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่ง SG&A ในต่างประเทศอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าในประเทศ รวมไปถึงอัตรากำไรสุทธิในต่างประเทศอยู่ในระดับที่สูงอยู่ที่ 18-19% ส่วนในประเทศอยู่ที่ 10% อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ต้นทุนราคาสาหร่ายที่เป็นวัตถุดิบหลักนั้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผู้ประกอบการหลายรายเข้าไปซื้อสาหร่ายในแหล่งเดียวกัน ทำให้ราคาขายสาหร่ายที่เป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนอย่างน้อย 1 ราย ภายในปี 60 หลังจากโรงงานผลิตแห่งใหม่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/60 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 6,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตทั้งหมด 6,000 ตัน/ปี ซึ่งทำให้ในปี 60 กำลังการผลิตของบริษัทจะเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่จะนำสินค้าของบริษัทไปจำหน่ายต่อ โดยเฉพาะลูกค้าในประเทศจีน ที่มีความต้องการมาก โดยปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายในจีนแล้ว 2 ราย ใน 2 มณฑล ได้แก่ กว่างโจว และเซียงไฮ้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ