นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) กล่าวว่า บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นเดือนก.ค.ที่ระดับ 12,834 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ มูลค่า 3,210 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 9,624 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่าประมาณ 4,633 ล้านบาท และส่วนที่เหลือในปี 60-61
ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบมากถึง 10 โครงการ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ และทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,800 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 15,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่วางไว้ และเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
นอกจากนั้นแล้วในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ยังถือเป็นช่วงที่บริษัทมีคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างพร้อมกันมากถึง 8 โครงการ ได้แก่ 1) Aspire งามวงศ์วาน มูลค่า 2,680 ล้านบาท 2) Vittorio มูลค่า 3,500 ล้านบาท 3) RHYTHM สุขุมวิท 42 มูลค่า 3,500 ล้านบาท 4) RHYTHM อโศก มูลค่า 1,500 ล้านบาท 5) Aspire วุฒากาศ มูลค่า 390 ล้านบาท 6) RHYTHM สุขุมวิท 36-38 มูลค่า 2,900 ล้านบาท 7) Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง มูลค่า 2,850 ล้านบาท และ 8) Aspire สาทร-ท่าพระ มูลค่า 3,500 ล้านบาท โดย 3 โครงการหลังเป็นคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับทางมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group:MEC) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพร้อมเปิดให้ลูกค้าเข้าตรวจรับห้องชุดและชมความสมบูรณ์ของโครงการได้ตั้งแต่เดือนต.ค. และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ย้ายเข้าอยู่ได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
นายอนุพงษ์ กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายการมุ่งก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่อยู่ในใจผู้บริโภค โดยมีกลยุทธ์สู่ชัยชนะคือ การมอบความแตกต่างด้วยคุณภาพ ด้วยหลักปรัชญาการทำงาน ‘AP – The Differentiator’ หรือเอพีผู้สร้างความแตกต่างให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ผ่านทั้งตัวสินค้าและบริการ ภายใต้ 4 แนวคิดหลัก 1) SPACE OPTIMIZATION แตกต่างในการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด 2) CONVENIENT แตกต่างในวิธีคิดที่ทุกพื้นที่ต้องเอื้อให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายทั้งในบ้านและนอกบ้าน และเชื่อมต่อทุกรูปแบบการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับคนเมือง
3) QUALITY มุ่งยกระดับคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้ผสานความร่วมมือกับ MEC พันธมิตรทางธุรกิจในการร่วมกันสร้าง AP CHECK LIST ขึ้น ซึ่งจะเป็นคู่มือสำคัญในการควบคุมการพัฒนาโครงการที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการออกแบบที่มีคุณภาพ ไปจนถึงขั้นตอนการก่อสร้างและกระบวน การตรวจสอบงานที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้จากทางญี่ปุ่น 4) HUMAN DEVELOPMENT มุ่งสร้างความแตกต่างทั้งระบบความคิดและการบริหารจัดการให้กับคนเอพีอย่างต่อเนื่อง ผ่าน AP ACADEMY สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของไทย "สิ่งหนึ่งที่การันตีถึงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวได้อย่างชัดเจนคือ ทางมิตซูบิชิ เอสเตท ส่งพนักงานซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นของทางมิตซูบิชิ เอสเตทเองมานั่งประจำ ณ สำนักงานใหญ่เอพี จำนวน 4 คน เพื่อให้การทำงานและอำนาจการตัดสินใจสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงจะช่วยส่งเสริมด้านการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์อสังหาฯ ของ เอพีเท่านั้น แต่ยังจะมีส่วนช่วยเสริมยกระดับมาตรฐานอสังหาริม-ทรัพย์ไทยในภาพรวมอีกด้วย"นายอนุพงษ์ กล่าว