นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บมจ. ศิครินทร์ (SKR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุน 6 ล้านหุ้น โดยกำหนดจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สัดส่วน 20:1 ราคา 25 บาท/หุ้น ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้จำนวน 150 ล้านบาท มีเป้าหมายจะนำไปรองรับแผนการขยายธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 26 ตุลาคม 2559 และรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (รวมทั้งมีการแก้ไขเพิ่มเติม) โดยวิธีปิดสมุดพักการโอนหุ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2559
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีมติอนุมัติการรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของบริษัท ศิครินทร์ หาดใหญ่ โฮลดิ้ง จำกัด (SHH) ซึ่งประกอบด้วยหุ้นสามัญทั้งหมดของ SHH ถืออยู่ในบริษัท โรงพยาบาล ศิครินทร์ หาดใหญ่ จำกัด (SKHY) คิดเป็นสัดส่วน 82.34% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SKHY
คณะกรรมการเห็นควรกำหนดให้บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25,009,415 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 6.50 บาท เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงต่อบุคคลจำกัด (Private Placement) ให้ SHH ในราคาหุ้นละ 59.00 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 1,475,555,485 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนการที่ SHH โอนกิจการทั้งหมดให้แก่บริษัทฯ
เบื้องต้นบริษัทฯ คาดว่ากระบวนการการรับโอนกิจการทั้งหมด และการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/59 ซึ่งภายหลังจากกระบวนการดังกล่าวแล้วเสร็จ SKHY จะมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่บริษัทฯ ถือหุ้นโดยตรงในสัดส่วน 94.11% (รวมหุ้นเดิมที่บริษัทฯ ถืออยู่ใน SKHY จำนวน 5,886,792 หุ้น คิดเป็น 11.77%)
“การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้เพื่อรองรับแผนการก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลชั้นนำระดับโลก สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ในการเป็น "ศูนย์กลางบริการสุขภาพนานาชาติ" หรือ Medical Hub เนื่องจากบริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงเห็นศักยภาพของ SKHY ซึ่งตั้งอยู่บนศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ได้ผ่านการพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์จนก้าวสู่เป็นโรงพยาบาลชั้นนำขนาดใหญ่ของภาคใต้ ซึ่งในอนาคตจะมีจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยมากถึง 400 เตียง และผ่านการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลสากลระดับโลก JCI แห่งเดียวของภาคใต้ตอนล่าง ที่สามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ อาทิ การรองรับตลาดสุขภาพจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย"นายสุริยันต์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการขยายศักยภาพของท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ที่มาจากการเจริญเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรองรับการลงทุนต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเห็นว่าขณะนี้จังหวัดสงขลามีบริษัทที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เยอะที่สุดในประเทศไทยซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดจะเป็นเหตุผลเพื่อสนับสนุนการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในครั้งนี้
“การเติบโตของ SKR มาจากธุรกิจหลักคือ การให้บริการทางการแพทย์ โดยที่ผ่านมาทางบริษัทฯมีแผนการลงทุนและพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ เพื่อก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลชั้นนำระดับโลก ทั้งผ่านการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลสากลระดับโลก (JCI)และมาตรฐานJCI เฉพาะโรค ประกอบด้วย โรคหลอดเลือดและระบบประสาท (Stroke)โรคเบาหวาน(DM) และในปลายปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะขอการรับรองจาก JCI เฉพาะโรคอีกหนึ่งด้าน คือ โรคหัวใจ (MI) ซึ่งคาดว่าจะผลักดันให้รายได้จากการรักษาพยาบาลมีการเจริญเติบโตในระดับที่น่าพอใจมาก"