นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) เปิดเผยว่า แผนการผลิตน้ำตาลทรายของรอบฤดูการผลิตปี 2559/2560 บริษัทฯ คาดว่าจะผลิตน้ำตาลทรายได้ 280,000 ตัน จากปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 2.5 ล้านตันอ้อย หรือคิดเป็นผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยเฉลี่ย (ยิลด์) อยู่ที่ 115 กิโลกรัมต่อตันอ้อย หลังจากบริษัทได้เตรียมพร้อมด้านการเพาะปลูกอ้อยที่มีประสิทธิภาพ โดยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกเป็น 200,000 ไร่ รอบรัศมีโรงงาน 40 กิโลเมตร เพื่อสะดวกต่อการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพผลผลิตอ้อยและการจัดส่งผลผลิตเข้าสู่โรงงานที่ยังสามารถคงคุณภาพได้ดีที่สุด หวังสร้างมูลค่าสูงสุดที่ได้จากการเพาะปลูกอ้อย
ทั้งนี้ จากภาพรวมผลผลิตในรอบการผลิตดังกล่าว บริษัทมองว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ จะสามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำตาลทรายซึ่งสอดรับกับจังหวะราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกอยู่ในช่วงปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนธุรกิจน้ำตาลทรายของกลุ่ม BRR ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนก็จะมีความมั่นคงด้านวัตถุดิบสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล
"เรามีแผนสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง โดยจากการดำเนินการเพาะปลูกอ้อยในปีนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงานของ BRR ในระยะยาวมีการเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งเราวางเป้าหมายว่าภายใน 2 ปีข้างหน้า จะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบกว่า 3 ล้านตันอ้อยและจะสามารถผลิตน้ำตาลทรายได้ถึง 350,000 ตัน ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำตาลทรายของ BRR เติบโตขึ้นต่อไปในอนาคต"นายอนันต์กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,208 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 41.5 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,704 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 167 ล้านบาท
บริษัทอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทในเครือ 2 แห่ง คือ บริษัท บุรีรัมย์พลังงาน จำกัด (BEC) และ บริษัทบุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด (BPC) โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเม็ดเงินทุนที่ได้ไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการเตรียมการสำหรับก่อสร้างโรงงานน้ำตาลทรายแห่งใหม่จำนวน 2 โรง ได้แก่ ที่อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ และที่อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ กำลังการหีบอ้อยโรงงานละ 2 หมื่นตันอ้อย/วัน โดยหลังจากจัดตั้งกองทุนแล้ว BRR จะเข้าไปถือหน่วยลงทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุน และบริษัทฯ ยังจะได้รับส่วนแบ่งเงินปันผลตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนอีกด้วย