EPG เตรียมส่งสินค้านวัตกรรม-เทคโนฯใหม่เสริม 3 กลุ่มธุรกิจดันยอดขายปีนี้แตะ 1-1.1 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 15, 2016 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) เปิดเผยว่า ทิศทางการเติบโตของ EPG ในช่วงหลังจากนี้น่าจะทำให้ EPG สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าการเติบโตในงวดปีนี้ (เม.ย.59-มี.ค.60) จะเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ 14-25% หรือทำรายได้ประมาณ 10,000-11,000 ล้านบาท

เนื่องจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ ณ ปัจจุบันที่อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อยู่ที่ 3.2% ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นไปตามที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้ แม้ว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ด้วยแบรนด์สินค้า ช่องทางการจำหน่ายทั่วโลก และการพัฒนาคุณภาพของสินค้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สินค้าของ EPG ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าในกลุ่มเดียวกันถึง 32.9% และด้วยคุณภาพและมาตรฐานสินค้าในระดับสากลที่เป็นที่ยอมรับของทุกประเทศทั่วโลก

สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ EPG จะเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออกและรายได้จากบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในต่างประเทศเป็น 70% ภายในปี 60/61 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 65% โดยในส่วนของฉนวนกันความร้อน/เย็น AEROFLEX จะมีการนำเทคโนโลยีการผลิตที่มีความเร็วสูงขึ้นเข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต พร้อมทั้งเป็นการเสริมคุณภาพและมาตรฐานสินค้า ในขณะเดียวกันยังเป็นการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์มีปัจจัยส่งเสริมจากกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ในประเทศที่มีอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประสิทธิภาพในการผลิตที่สูงขึ้น โดยไม่ต้องมีการขยายการลงทุนเพิ่ม โดยในส่วนของ TJM จะมีการออกสินค้าใหม่เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้ารถยนต์ออฟโรด (4WD) โดยมีแผนเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและการขยายสาขาของตัวเองใน 1-2 ปี สำหรับผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ EPP โรงงาน EPP Phase 2 จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของงวดปี ( ก.ค.-ก.ย.59 ) เป็นต้นไป ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะใช้การผลิตด้วยระบบ Automation อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ EPP ขยายฐานการจำหน่ายไปยังลูกค้าในต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน

สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 59/60 (เม.ย.-มิ.ย.2559) มีรายได้รวม 2,358.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิรวม 381.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากสินค้าหลัก อันได้แก่ ฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และผลิตภัณฑ์สำหรับรถกระบะ 4WD ภายใต้แบรนด์ TJM มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขายลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศลดลง

สำหรับยอดจำหน่ายของทั้ง 3 ธุรกิจ ในไตรมาสแรกของปี 59/60 ชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมียอดจำหน่าย 1,026.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากยอดคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศ ประกอบกับการพัฒนาสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ พื้นปูกระบะ (Liner) หลังคารถกระบะ (Canopy) บันไดข้างรถ (Side Step) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ แผ่นพลาสติกปูรองบ่อ (Geomembrane)

ขณะที่ฉนวนกันความร้อน/เย็น Aeroflex มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งใช้สำหรับท่อส่งความเย็นและความร้อน สำหรับอาคารและสถานที่สำคัญๆที่มีคำสั่งซื้อจากตลาดสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงไตรมาสแรกมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 678 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดจำหน่ายลดลงเพียงเล็กน้อย 654 ล้านบาท ลดลง 0.8% หรือลดลง 5 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลจากการอุปโภคและบริโภคภายในประเทศที่ลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ