ณัฐดนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) เปิดเผยว่า บริษัทคาดหวังได้รับงานประมูลเคเบิ้ลใต้น้ำราว 2.3 พันล้านบาท จากมูลค่างานทั้งหมด 4 พันล้านบาท โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากนั้นน่าจะเปิดประมูลได้ภายในเดือน ก.ย.59 และจะมีความชัดเจนของผลประมูลในเดือน ต.ค.59 หากบริษัทได้รับงานในมูลค่าที่คาดหวังไว้จะทำให้ช่วงปลายไตรมาส 4/59 จะมีการรับรู้รายได้ส่วนนี้เข้ามาราว 400-500 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินพระราม 3 เฟส 1 มูลค่าราว 1.8 พันล้านบาท หลังจากบริษัทไม่ได้งานโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าใต้ดินช่องนนทรี มูลค่า 2.5 พันล้านบาท แต่บริษัทจะยังเดินหน้าประมูลงานใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทยังมั่นใจรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ 3.07 พันล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือ (Backlog) 100-200 ล้านบาท จากมูลค่าทั้งหมดที่มีอยู่ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานโครงการระบบสาธารณูปโภคของสนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด
อีกทั้งบริษัทยังตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ให้อยู่ไม่ต่ำกว่า 8% โดยมองแนวโน้มกำไรในปีนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้น หลังจากสัดส่วนของธุรกิจของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง โดยสัดส่วนรายได้และกำไรในปัจจุบันมาจากธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ 70% และธุรกิจโทรคมนาคม 30% ซึ่งสัดส่วนของงานให้บริการด้านโทรคมนาคมมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นช่วยผลักดันให้กำไรของบริษัทมีโอกาสที่เพิ่มขึ้นตาม เนื่องจากงานนดังกล่าวให้มาร์จิ้นที่สูงกว่าธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ
สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) ให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) และการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่าจำดำเนินการได้กลางเดือน ก.ย.โดยจะเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนรับประกันการจัดจำหน่าย (อันเดอร์ไรท์) ในวันที่ 29 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ ITEL จะเสนอขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท หรือ คิดเป็น 40% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพิ่นำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการลงทุนโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ และใช้สำหรับการคืนหนี้บางส่วน เพื่อทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง
หลังจากการโรดโชว์ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 10 ส.ค.ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และบริษัทมีแผนเดินสายโรดโชว์ที่กรุงเทพฯและเชียงใหม่ในวันที่ 22 และ 25 ส.ค.ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้ารายได้ของ ITEL เติบโตอย่างน้อย 40-50% ต่อปี ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการขยายโครงข่าย 3G และ 4G ของผู้ประกอบการค่ายมือถือในประเทศทั้ง 3 ราย รวมถึงจำนวนผู้เช่าศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัทที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคต