นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนกันยายนนี้ บริษัทฯ เตรียมเดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ CLSA อาทิ ยุโรป และฮ่องกง เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพ การก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ และนิคมอุตสาหกรรม แบบครบวงจรในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 59 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงโรงงานระดับพรีเมี่ยม เพิ่มมากขึ้นตามแผนที่ได้วางไว้ โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการขยายพื้นที่เช่าไว้ที่ 250,000 ตารางเมตร นำโดย Built-to-Suit นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในปีนี้ได้ถึง 1,000 ไร่ จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตของประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สำหรับความคืบหน้าของในการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT)นั้น ล่าสุด บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด อยู่ระหว่างการรออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (Hemaraj Leasehold Real Estate Investment Trust (HREIT) มูลค่ารวมไม่เกิน 8,690 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ภายในต้นไตรมาส 4/2559
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมขายทรัพย์สินเพิ่มเติมของ WHA เข้ากองทรัสต์ WHART ในมูลค่าประมาณ 4,190 ล้านบาท โดยคาดว่าบริษัทฯ จะเสนอขายแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะส่งผลขนาดทรัพย์สินของกองทรัสต์ WHART เพิ่มเป็น 13,000 กว่าล้านบาท จากปัจจุบัน 9,000 ล้านบาท
โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ของกองทรัสต์ทั้ง 2 กอง บริษัทฯ จะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ตามแผนการลดภาระหนี้สินของบริษัทฯ และต้นทุนทางการเงินที่บริษัทฯวางไว้ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทและกิจการร่วมค้า 1,984.1 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ 2,023.4 ล้านบาท แต่รายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 334.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 48% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 226.1 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายเนื่องจากการชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และกาออกหุ้นกู้ที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำกว่า รวมทั้งการลดลงของค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ส่วนผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 59 บริษัทฯมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทและกิจการร่วมค้า 3,707.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ 2,571.2 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้จาก บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ในงวด 6 เดือนแรก รวมทั้งการเติบโตของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการรวมทั้งค่าบริการระบบสาธารณูปโภค ซึ่งเติบโตขึ้นจาก 1,261.5 ล้านบาท เป็น 1,717.5 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 36.1% โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 454.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 221.5 ล้านบาท หรือกว่าร้อยละ 105
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนอีกจำนวน 822.1 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากงวดเดียวกันปีก่อน 288.6 ล้านบาท หรือ 54.1% ตลอดจนการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าอีกจำนวน 940.8 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 477.8 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ 97% หรือ 463 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปี 2558