โบรกฯ เชียร์"ซื้อ" หุ้น บมจ.นามยง เทอร์มินัล (NYT) มองผลดำเนินงานยังคงแข็งแกร่ง และสถานะผู้นำในตลาดท่าเรือขนส่งรถยนต์เพื่อการส่งออก อีกทั้งในครึ่งปีหลังบริษัทจะขยายกำลังการผลิตท่าเทียบเรือเพิ่ม น่าจะส่งผลดีต่อตัวกำไรสุทธิในปี 59 และต่อยอดไปถึงปี 61
ขณะที่ภาพรวมของการส่งออกรถยนต์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยังคงเป้าหมายส่งออกรถยนต์ทั้งปี 59 ที่ 1.25 ล้านคัน หรือคิดเป็นจำนวนคาดการณ์ส่งออกรถยนต์เฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง ที่ระดับ 655,177 คัน ส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัท
ทั้งนี้ กำไรปกติในปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว 7-8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังน่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 60-61
ราคาหุ้น NYT ล่าสุดไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 13.40 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.21%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาพื้นฐาน(บาท/หุ้น) บล.ทิสโก้ ซื้อ 18.00 บล.เออีซี ซื้อ 16.40 บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 19.20
นักวิเคราะห์ สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ แนะ"ซื้อ"หุ้น NYT จากมุมมองการดำเนินธุรกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายในช่วงไตรมาส 2/59 ลดลงมาที่ 12.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 12.8% และจากสถานะผู้นำในตลาดท่าเรือขนส่งรถยนต์เพื่อการส่งออก โดยครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80% รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของการผลิตรถยนต์และการส่งออก
ทั้งนี้ มองว่า NYT ยังมี upside จากแนวโน้มรายได้ประจำเพิ่มขึ้น จากการขยายพื้นที่เก็บรถยนต์และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านคลังสินค้าต่าง ๆ แต่ปัจจัยเสี่ยง คือ การหมดสัญญาสัมปทาน, การพึ่งพิงสูงกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และปัญหาระบบการขนส่งที่ติดขัดกระทันหัน
นายอิศรา เลิศสุดคนึง นักวิเคราะห์ บล.เออีซี ยังคงคำแนะนำ"ซื้อ"หุ้น NYT เช่นกัน เชื่อมั่นในการเติบโตของธุรกิจท่าเทียบเรือนำเข้าส่งออกรถยนต์ และมั่นใจว่าในระยะยาวอุตสาหกรรมการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยจะยังคงสดใส
ขณะที่กำไรปกติช่วงครึ่งปีแรก คิดเป็นสัดส่วน 45.0% ของประมาณการทั้งปี โดยช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่ากำไรปกติจะเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับที่ ส.อ.ท.ยังคงเป้าหมายส่งออกรถยนต์ทั้งปี 59 ที่ 1.25 ล้านคัน หรือคิดเป็นจำนวนคาดการณ์ส่งออกรถยนต์เฉพาะช่วงครึ่งปีหลังที่ระดับ 655,177 คัน เติบโต 10.1% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และเติบโต 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ NYT ยังมีปัจจัยบวกจากการขยายกำลังการผลิตท่าเทียบเรือ A5 เพิ่มเป็น 1.5 ล้านคัน/ปี จากเดิมที่ 1.2 ล้านคัน/ปี โดยคาดปี 59 จะมีกำไรปกติ 481 ล้านบาท เติบโต 8.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน และน่าจะเติบโตต่อปี ปีละ 9.6% ในปี 60-61 จากแนวโน้มที่ผู้ผลิตรถยนต์หันมาผลิตเพื่อส่งออกแทนผลิตเพื่อขายในประเทศ และแรงหนุนจากโครงการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ECO-CAR Phase 2 โดยผู้ผลิตต้องดำเนินการผลิตภายในปี 62
อีกทั้งมองว่ายังมี upside 22.4% และคาดให้ Div.Yield เฉลี่ยปีละ 5.7%
"ช่วงไตรมาส 2/59 กำไรปกติโต 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดส่งออกรถยนต์ที่สดใส ส่วนช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดกำไรปกติจะยังคงโตเด่น เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และจากปีก่อน จากแนวโน้มยอดส่งออกรถยนต์ที่โตต่อ และการขยายกำลังการให้บริการ"นายอิศรา กล่าว
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของ NYT ในฐานะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด และภาพการส่งออกรถยนต์ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมียอดส่งออกรถแบบ PPV ทำให้มูลค่าการส่งออกรถยนต์ของไทยเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะที่ผลการดำเนินงานทั้งปีก็คาดว่ารายได้จะเติบโตราว 7.8% และกำไรสุทธิน่าจะเติบโตราว 7.6% โดยคาดว่ายอดส่งออกรถยนต์จะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากอุปสงค์ที่มาจากตะวันออกกลาง ขณะที่การขาดทุนจากท่าเรือ CO ที่ NYT ถือหุ้นในสัดส่วน 20% มองว่ามีผลขาดทุนที่น้อยมาก จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในปีนี้