นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯปรับเป้ากำไรสุทธิปีนี้เป็นจะเติบโตจากปีก่อนราว 15-20% จากก่อนหน้านี้บริษัทฯคาดว่ากำไรสุทธิจะใกล้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2,072 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทฯมีกำไรสุทธิแล้ว 1,214.87 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาค่าตลาด และต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลง
"แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา และแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ไม่มากนัก ส่งผลให้การใช้จ่ายของลูกค้าไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตามเรามีการบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี โดยคาดว่าทั้งปีนี้ต้นทุนทางการเงินจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบันที่ 3%โดยล่าสุดเราได้มีการออกหุ้นกู้ให้กับสถาบัน 3 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 3.5% และเราเตรียมออกหุ้นกู้ล็อตใหม่ 3-4 พันล้านบาทในไตรมาส 4 เพื่อนำมาขยายธุรกิจ โดยการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ ทำให้ผลประกอบการปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน"นายระเฑียร กล่าว
นายระเฑียร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯเตรียมนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศอังกฤษ และยุโรป ในวันที่ 5-7 ก.ย. เพื่อที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากสถาบันต่างประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ 5.8% ซึ่งบริษัทฯก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากผลประบการที่ดีและเข้มแข็ง ดดยที่ผ่านมาสถาบันต่างประเทศเคยถือหุ้น KTC สูงสุดเป็นสัดส่วนถึง 30% โดยปีนี้บริษัทฯมีแผนโรดโชว์ยุโรป 1 ครั้ง สหรัฐฯ 1 ครั้ง ฮ่องกง 2 ครั้ง สิงคโปร์ 2 ครั้งและญี่ปุ่น 1 ครั้ง
สำหรับการปรับเปลี่ยนระบบมาตรฐานบัญชีมาเป็น IFRS9 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 62 ซึ่งจากการที่ตลาดคาดการณ์มาตรฐานบัญชีใหม่นี้จะทำให้มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 30-50% ซึ่งขณะนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระศึกษาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามส่วนตัวบริษัทฯแล้วเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบต่อผลประกอบการ เนื่องจากสำรองของบริษัทฯที่อยู่ในระดับสูงและเพียงพอที่จะรองรับการปรับมาตรฐานบัญชีใหม่