(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมตัวปรับฐานต่อ,จับตาเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหลังดอลลาร์ฯอ่อนค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 17, 2016 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ซึมๆ อาจไม่ลงรุนแรงเพราะเมื่อวานเป็นการปรับฐานตาม Sell on Fact พอควรแล้ว แต่ก็คงไม่เห็นการปรับเพิ่มขึ้นรุนแรงเช่นกัน ปัจจัยที่ต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพราะมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะขึ้นดอกเบี้ย

ส่วนคืนนี้ที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 26-27 ก.ค. คาดว่าคงไม่มีอะไรมากเพราะแค่เป็นการรายงานผลการประชุมเฟดเมื่อปลายเดือนที่แล้ว แต่จะมีความเห็นของประธานเฟด แต่จะสาขา เกี่ยวกับการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย เพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเปิดช่องให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าดอลลาร์อ่อนค่าแล้วขึ้นดอกเบี้ยจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

พร้อมให้กรอบแนวรับวันนี้ 1,532 และ 1,530 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,552.02 จุด ลดลง 84.03 จุด (-0.45%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,227.11 จุด ลดลง 34.91 จุด (-0.66%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,178.15 จุด ลดลง 12.00 จุด (-0.55%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 84.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 10.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.32 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 16.43 จุด ,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.39 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ส.ค.59) 1,546.43 จุด ลดลง 2.68 จุด (-0.17%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 911.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ส.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ส.ค.59) ปิดที่ 46.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ส.ค.59) ที่ 3.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.64/66 กลับมาอ่อนค่า หลังเฟดหลังส่งสัญญาณขึ้นดบ.ในก.ย.
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดูแลค่าบาท หวั่นแข็งค่าเร็วเกินไป กระทบภาคธุรกิจ-เศรษฐกิจ แนะบริหารความเสี่ยง ค่าเงิน ชี้มีโอกาสปรับทิศทางได้รวดเร็วตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก
  • รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ หารือกระทรวงการคลังวางกรอบงบประมาณสมดุล สร้างความยั่งยืนทางการคลังในระยะ 7-8 ปี ส่งต่อเป็นแนวนโยบายบริหารเศรษฐกิจรัฐบาล ขณะที่ทีดีอาร์ไอหนุนวางกรอบการคลัง สร้าง ธรรมาภิบาล แนะทำแผนควบคู่ลดรายจ่าย 1,552.76 เพิ่มรายได้ ชี้ควรขึ้นแวตเป็น 10% ตัดลดรายจ่ายภาครัฐ สกัดการเมืองใช้ประชานิยม
  • จีนติด "ท็อป 25" ชาตินวัตกรรมชั้นนำโลกครั้งแรก หลังรัฐบาลทุ่มลงทุนด้านการศึกษา อาร์แอนด์ดี ขณะไทยอยู่อันดับ 52 จากทั้งหมด 128 ประเทศ อินเดียพุ่ง 15 อันดับ สะท้อนตลาดเกิดใหม่มาแรงด้านนวัตกรรม ขณะที่เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม จัดอันดับ ความพร้อมด้านไอซีที ไทยสูงขึ้นจากอันดับ 67 เป็น 62 ขยับขึ้น 5 อันดับ
  • ธนารักษ์เสนอนายกฯใช้ม.44 ปลดล็อกเปิดเอกชน นำที่ดินนิคมฯ เขตเศรษฐกิจพิเศษแบ่งพื้นที่เช่าต่อได้ ขอยืดเวลายื่นซองประมูลจาก 60 เป็น 90 วัน เตรียมเสนอชื่อผู้ผ่านคัดเลือกพัฒนาพื้นที่จ.ตราด เข้าบอร์ดพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BDMS (ซีไอเอ็มบี)"ซื้อ" BDMS เป้า 25.50 บาท รายงานกำไรปกติ 2Q16 สอดคล้องกับประมาณการ(กำไรปกติ +9% yoy, -33% qoq) โดยรายได้ค่ารักษาพยาบาลเติบโต 5.3% yoy ซึ่งรายได้ที่เติบโต 4% yoy มาจากโรงพยาบาลเดิม ส่วนอีก 1% มาจากโรงพยาบาลใหม่ แต่หากแบ่งตามพื้นที่ เราพบว่ารายได้จากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้น 5% yoy และรายได้จากโรงพยาบาลในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 10% yoy ขณะเดียวกัน รายได้จากผู้ป่วยไทยเพิ่มขึ้น 6% และรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น 4% yoy ทั้งนี้รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 29% ของรายได้รวมใน 2Q16 เทียบกับ 28% ใน 2Q15 เราเชื่อว่า BDMS มี downside จำกัดหลังราคาหุ้นปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนผลกำไรที่ปรับลดลง qoq ไปแล้วดังนั้น เชื่อว่าราคาหุ้นจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงนี้ที่ตลาดเริ่มมีการปรับฐานลงและมาพักเงินในหุ้นปลอดภัยมากขึ้น
  • ERW (เออีซี)"ซื้อ"TP 6.60 บาท ช่วง 3Q59 คาดกำไรพลิกเป็นบวกหนุนด้วยจำนวนห้องพักและ OCC Rate ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ช่วง 4Q59 คาดโตต่อหลังเข้าสู่ High Season และมีแผนเปิดโรงแรม 3 แห่ง หนุนปี 59 คาดกำไรปกติโต 78.1%YoY + Upside 37%
  • BJC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" เป้า 54 บาท กำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q16 และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ 3Q16 เพราะค่าใช้จ่ายดีลซื้อ BIGC ลดลง ส่วนกำไรของ BIGC (BJC ถือ 98%) กลบภาระดอกเบี้ยจ่ายจนหมด และจะมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนราว 1 พันล้านบาท คาดกำไรสุทธิปีนี้ +43% Y-Y แต่ EPS -50% Y-Y จากการเพิ่มทุน แต่ EPS ปี 2017 จะโตก้าวกระโดด 105% Y-Y จาก Synergies ที่ได้จาก BIGC ทำให้ PE ปีหน้าเหลือ 25 เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม Modern trade ราคาพื้นฐานปีหน้า 54 บาท มี upside มากสุดในกลุ่มเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ