CENTEL ศึกษาร่วมมือ PTT ตั้งโรงแรมในปั๊มเล็งผุดแบรนด์ใหม่รองรับ,คาดปี 59 กำไรโตตามรายได้พุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 17, 2016 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการติดต่อจาก บมจ.ปตท. (PTT) เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือสร้างโรงแรมในปั๊มน้ำมันของ ปตท.ทั้งหมด 50 แห่งทั่วประเทศ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ เนื่องจากอยู่ที่ดุลยพินิจของปตท.ที่เป็นเจ้าของโครงการที่จะตัดสินใจเลือกพันธมิตรในร่วมพัฒนาโครงการดังกล่าว

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะพัฒนาแบรนด์โรงแรมใหม่อีก 1 แบรนด์ ซึ่งจะเป็นแบรนด์ที่ 7 ของบริษัท โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์ใหม่จะมีความใกล้เคียงกับแบรนด์"โคซี่"ซึ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในระดับล่าง และแบรนด์แห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการศึกษานี้มีโอกาสที่จะได้เริ่มใช้กับโรงแรมหากมีข้อสรุปการร่วมเป็นพันธมิตรกับ ปตท.

นายรณชิต กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของ CENTEL ในปีนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะมากกว่าปีก่อนที่มีกำไรสทธิ 1.67 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามรายได้ที่คาดว่าจะทำได้มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้ 1.92 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโรงแรมได้รับอานิสงค์จากการท่องเที่ยวในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย 33 ล้านคน หรือเติบโต 10% จากปีก่อน โดยครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 16 ล้านคน หรือเติบโต 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รัฐ

ส่วนแนวโน้มอัตราการเข้าพัก (OCC) โรงแรมในเครือปีนี้ตั้งเป้าอยู่ที่ 82-83% โดยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 82.7% ขณะที่ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาอัตราการเข้าพักสูงขึ้นไปถึง 90% แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายจังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ทำให้อัตราการเข้าพักลดลงมาอยู่ที่ 80% เนื่องจากลูกค้าบางส่วนยกเลิกการจองห้องพัก ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 2 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้เริ่มคลายความกังวลมากขึ้น จึงเชื่อว่าอัตราการเข้าพักในไตรมาส 3/59 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ระดับไม่ต่ำกว่า 80% ขณะที่อัตราเฉลี่ยรายได้ต่อจำนวนห้องพัก (RevPar) ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 4-5% โดยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 4,213 บาท/ห้อง/คืน

บริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ โดยเตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติเพื่อลงทุนโรงแรมจำนวน 500 ห้อง ในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่าโครงการทั้งหมด 6.3 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 40% หรือจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 2.5 พันล้านบาท ทั้งนี้ การร่วมทุนดังกล่าวจะเซ็นสัญญาได้ภายไม่เกินสิ้นปีนี้

ขณะทีและธุรกิจอาหารเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศของภาครัฐ ช่วยผลักดันการเติบโตของสาขาเดิม (SSSG) ราว 1-2% ในปีนี้ โดยครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 1.4% หลังจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นตัวขึ้น แม้ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัว ส่วนแนวโน้มในครี่งปีหลังบริษัทยังเชื่อว่า SSSG จะเป็นบวกต่อเนื่อง โดยมี 4 แบรนด์หลักที่ช่วยขับเคลื่อน ได้แก่ เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, โอโตยะ และมิสเตอร์ โดนัท ขณะที่แบรนด์ที่ผลการดำเนินงานจะกลับมามีกำไร คือ เปปเปอร์ รันซ์ ซึ่งจะช่วยผลักดันกำไรของบริษัทให้เติบโตขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อซื้อกิจการแบรนด์ร้านอาหารในประเทศไทยเพิ่มอีก 1 แบรนด์ มูลค่ากิจการราว 400 ล้านบาท คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ และในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขาของร้านอาหารทั้งหมด 815 สาขา จากทั้งสิ้น 12 แบรนด์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ