นายอภิชัย เตชะอุบล รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) เปิดเผยว่าครึ่งหลังปี 59 ผลการดำเนินงานของ TFD เริ่มเข้าสู่ช่วงเทิร์นอะราวด์ ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังมีปัยจัยหนุนที่จะทำให้ผลการดำเนินงานทั้งปีออกมาเป็นบวกได้ แม้ว่าครึ่งปีแรกจะยังมีผลการดำเนินงานเป็นลบ เนื่องจาก 3 ธุรกิจหลักของบริษัทเติบโตได้ดี
สำหรับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี เฟส 2 บนเนื้อที่ 2.5 พันไร่ ที่ได้รับการอนุมัติเปลี่ยนสีจากสีเขียวให้เป็นสีม่วงไปแล้วนั้น ขณะอยู่ขั้นตอนของการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งดำเนินการไปกว่า 90% คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในไตรมาส 3/59 และจะเริ่มขายที่ดินทันที ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มทุนในประเทศและต่างประเทศเข้ามาเจรจาขอซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก และปีนี้ตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 200 ไร่ เฉลี่ยราคา 9 ล้านบาทต่อไร่ รวมเป็นมูลค่าราว 1.8 พันล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถโอนได้ภายในปีนี้ 100 ไร่ มูลค่า 900-1,000 ล้านบาท ส่วนปี 60 ตั้งเป้ายอดขายที่ดินเพิ่มเป็น 400 ไร่
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท คราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TFD ล่าสุดประสบความสำเร็จการขายโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ "The Harbour View Residence" แบบยกตึก ให้กลุ่มทุนไต้หวัน "Blue ocean realty Group (Taiwan)" มูลค่ารวม 1.66 พันล้านบาท คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนได้ภายในปี 60 นอกจากนี้ยังมีโครงการ 15 สุขุมวิท เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมที่ทำการขายและรับรู้การโอนไปแล้ว 80% และยังเปิดทำการขายอยู่ 20% ที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งล่าสุดบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่อีก 2 โครงการ คือโครงการ The One Ratchada คอนโดมิเนียมเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ความสูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร บนทำเลใกล้ศูนย์วัฒนธรรม มูลค่าโครงการ 6 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขายในไตรมาส 4/59 อีกทั้งยังมีโครงการระดับไฮเอนด์ ความสูง 41 ชั้น อีกหนึ่งโครงการ บนทำเลราชดำริ ซึ่งโครงการนี้ผ่าน EIA เรียบร้อยแล้ว และเริ่มลงเสาเข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีแผนจะเปิดขายเร็วๆนี้เช่นกัน
ขณะที่ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ดำเนินการโดยบริษัท โทเทิล อินดัสเตรียล เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ TISCOM ที่ TFD ถือหุ้น 100% ปัจจุบันมียอดเช่าเพิ่มขึ้นทั้ง โครงการ Green Park เฟส 1 โดยคาดว่าจะมีผู้เช่า 75-100% ในช่วงปลายไตรมาส 3/59 และโครงการ Green Park เฟส 2 ก็มั่นใจว่าจะมีผู้เช่าเต็ม 100% ภายในช่วงไตรมาส 3/59 เช่นกัน ทั้งนี้ TISCOM ยังมีโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศอังกฤษอีก 2 ที่มีผู้เช่าระยะยาวเต็ม 100% ให้อัตราผลตอบแทนสูงเฉลี่ย 9-9.8%
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนจะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่า 2 พันล้านบาท ภายในไตรมาส 4/59 ซึ่งจะนำโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าในโครงการ Green Park เฟส 1 Green Park เฟส 2 และโรงงานในอังกฤษ 2 แห่ง ขายเข้าเป็นสินทรัพย์ของกอง REIT ซึ่งจะบันทึกเข้ามาเป็นกำไรให้บริษัทในปีนี้ 59
ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าปีนี้รายได้จะเติบโตตามเป้า 5.5 พันล้านบาท และจากนี้ไปจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเทิร์นอะราวด์ และจะเติบโตต่อเนื่องไปอีก 3 ปีข้างหน้า ที่จะทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจด้านต่าง ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ด้านเงินลงทุนนั้น บริษัทมีเพียงพอต่อการขยายธุรกิจ ซึ่งมีเครื่องมือระดมทุนหลายด้าน ทั้งการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงิน อีกทั้งบริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (TFD-W4) จำนวนไม่เกิน 427,833,801 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 19 ส.ค.59 ก็จะเป็นอีกช่องทางในการระดมทุนของบริษัทเพื่อขยายธุรกิจในอนาคตเช่นกัน ซึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิ TFD-W4 มีราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 3.50 บาทต่อหุ้น อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี