ADVANC มองข่าว"สิงเทล"เล็งซื้อหุ้น INTUCH ส่งสัญญาณธุรกิจโทรคมฯในไทยยังน่าสนใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 18, 2016 12:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวอาริยา ศิลากร ผู้จัดการส่วนงานนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) กล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการที่ สิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (สิงเทล) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ของ ADVANC จะเข้าซื้อหุ้น บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ในส่วนที่เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ถือหุ้นใหญ่อยู่ว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ และมองว่าเป็นโอกาสในการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถระบุได้ว่าสิงเทลจะเข้าซื้อหุ้น INTUCH จากเทมาเส็กจริงหรือไม่

ส่วนผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ ได้มีการปรับประมาณการรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 1.56 แสนล้านบาท หลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ ทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าและรายได้ 2G เอาไว้ได้ โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าทั้งสิ้น 39 ล้านราย

นอกจากนั้น การชนะประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งในระยะยาว เนื่องจากมีคลื่นความถี่เพียงพอในการให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถให้บริการลูกค้าในระบบ 2G ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับระบบ 3G และ 4G เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านเครือข่ายดิจิทัลอันดับ 1 ของเอไอเอส ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาทุก ๆ ด้าน เพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่า EBITDA margin ในช่วงครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรกที่ทำได้ 41.30% โดยเป็นผลมาจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รายได้จากการขายโทรศัพท์ที่ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะคงที่ โดยครึ่งปีแรกรายได้จากการขายโทรศัพท์ลดลงไป 25% ขณะที่ปีนี้จะมีการขาดทุนจากการขายโทรศัพท์เป็นผลจากการทำโปรโมชั่นลดราคาขายลงค่อนข้างมาก ทำให้กำไรลดลงและมีโอกาสที่จะขาดทุนได้ โดยครึ่งปีแรกอัตรากำไรของการขายโทรศัพท์ของบริษัทอยู่ที่ 0.9%

แต่ภาพรวมในปีนี้บริษัทยังมั่นใจว่า EBITDA margin ทั้งปี 59 จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 38-39%

สำหรับการจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปีนี้ นางสาวอาริยา ระบุว่า บริษัทยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ในอัตรา 100% ของกำไรสุทธิอย่างที่ผ่านมาได้หรือไม่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทจะนำเรื่องนโยบายการจ่ายปันผลไปพิจารณาในแผน 3-5 ปีที่อยู่ระหว่างการจัดทำ เนื่องจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายในอนาคตยังมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะในปี 63 ที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซค่อนข้างสูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ