นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือทอท. คาดว่าในไตรมาส 4/59 (ก.ค.-ก.ย.59) จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโต 12-12.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยยอดผู้โดยสารตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค.58 ถึงปัจจุบันเติบโต 12-12.1% ขณะที่ในช่วงเดือนต.ค.59 ก็คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารเข้ามาจำนวนมาก เพราะเป็นวันหยุดยาวของจีนในช่วงวันที่ 1-10 ต.ค.
นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะนัดหารือร่วมกับกลุ่มแอร์เอเชีย และบมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เพื่อร่วมพัฒนาสนามบินดอนเมือง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มแอร์เอเชียได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
นายนิตินัย กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติแผนแม่บทการพัฒนาขยายสนามบินดอนเมืองเมื่อเดือนมี.ค. 59 และเตรียมจะเริ่มต้นพัฒนาโครงการในปีงบประมาณ 60 หรือเริ่มในเดือนต.ค. 59 ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกแบบให้สอดคล้องกันระหว่าง Landside และ Airside
ขณะที่กลุ่มแอร์เอเชีย ได้ยื่นข้อเสนอลงทุนก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร (Terminal) หลังใหม่ ซึ่งเป็นจุดเดียวที่บริษัทออกแบบจะสร้างเป็นคลังสินค้า หรือ คาร์โก้ ดังนั้น จึงได้ให้ฝ่ายเทคนิคงานก่อสร้างไปพิจารณาทบทวนงานออกแบบว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้สัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวจะไม่ทำให้โครงการพัฒนาขยายสนามบินดอนเมือง ระยะที่ 2 ชะลอออกไป เนื่องจากบริษัทจะเริ่มงานในเดือนต.ค.59 เพื่อปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ก่อนและจะทุบตึกร้างข้าง ๆ อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 เพื่อสร้างอาคารจอดรถแทน
"วันนี้ทอท.กลับไปทบทวนแผนแม่บท ดูความเป็นไปได้ ให้ฝ่ายเทคนิคไปดูจะมี Terminal ใหม่ เพิ่ม Capacity"นายนิตินัย กล่าว
นายนิตินัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบกลุ่มแอร์เอเชียเตรียมหา Hub เพิ่มเติม โดยมองหาที่ประเทศไทย หรือ อินโดนีเซีย หรือ มาเลเซีย เพราะกลุ่มแอร์เอเชียได้สั่งซื้อเครื่องบินจำนวนมาก
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันพรุ่งนี้ จะอนุมัติรับรองผลการประมูลงานที่ปรึกษาควบคุมงาน (CSC) ของโครงการพัฒนาขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ที่เพิ่งประมูลเสร็จ ขณะที่ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ จะจัดพิธีลงนามทั้ง 3 สัญญาของโครงการพัฒนาขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ซึ่งประมูลไปแล้ว 2 งาน คือ งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ ที่บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ชนะประมูลวงเงิน 12,050 ล้านบาท และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค มีกิจการค้าร่วม เอสจี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ วงเงิน 1,980 ล้านบาท รวมทั้งงาน CSC ด้วย
ส่วนงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) กรอบวงเงิน 3.1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาที่ 4 เตรียมเปิดประมูลมนเดือนก.ย.นี้ โดยขณะนี้รอกรมบัญชีกลางอนุมัติวิธีคำนวณราคากลาง ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปในส.ค.นี้