PCSGH คาดรายได้-กำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน ตามภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 18, 2016 18:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสงค์ อดุลยรัตนนุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง (PCSGH) คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 4.15 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 541.73 ล้านบาท จากสภาวะอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในไตรมาส 2/59 ยอดการผลิตโดยรวมอยู่ที่ 411,000 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 4% แต่เชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4/59 เป็นต้นไป หลังจากสิ้นสุดการผ่อนชำระในโครงการรถยนต์คันแรก ซึ่งน่าจะทำให้อุตสาหกรรมมีการขยายตัวได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ จากผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก็ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะในประเทศในไตรมาส 2/59 ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 218,000 หรือ ลดลง13% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และยอดขายชิ้นส่วนรถกระบะของบริษัทลดลงราว 16% โดยมีสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มชิ้นส่วนรถกระบะกว่า 90% แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็ได้รับงานโครงการผลิตเสื้อสูบรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ มูลค่า 200 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ ตามระยะโครงการ 6-7 ปี ซึ่งจะเริ่มส่งมอบงานได้ในช่วงไตรมาส 4/59

นอกจากนี้ยังมีรายได้จากกลุ่มชิ้นส่วนนอกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ มูลค่า 170 ล้านบาท ที่ยังคงส่งมอบงานได้ตามกำหนดในไตรมาส 4 นี้ ขณะที่โครงการผลิตท่อ ให้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ มูลค่า 1.36 พันล้านบาทนั้นจะเลื่อนการส่งมอบสินค้าออกไปในไตรมาส 1/60

นอกจากนี้บริษัทยังวางกลยุทธ์ โดยการหาตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ใหม่ ๆ เช่น ชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ (BIG BIKE) และรถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมถึงชิ้นอลูมิเนียมและโลหะสินค้านอกเหนือจากที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งยังได้มีการหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อรองรับให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม

สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งโครงการโซลาร์ รูฟท็อป ขนาดกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จ และมีแผนที่จะขยายเพิ่มอีก 2 เมกะวัตต์ เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิต ซึ่งคาดจะลดได้ราว 20 ล้านบาท/ปี

นายประสงค์ กล่าวว่า ส่วนกรณีบริษัทได้ประสบปัญหาผนังเตาหลอมอลูมิเนียมสึกหรอ ประกอบกับปัญหาเครื่องฉีดอลูมิเนียมขนาดใหญ่ชำรุด จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากต้นทุน และมาร์จิ้นลดลง กดดันต่อผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/59 นั้น ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว แต่เบื้องต้นอาจจะมีผลกระทบต่อเนื่องเพียงเล็กน้อยในไตรมาส 3/59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ