นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway อิงบวกเล็กน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้น แต่นักลงทุนยังคงระวังในเรื่องโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ แต่ก็ต้องต่างรอรอดูการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ๊คสัน โฮ ในสัปดาห์หน้าราววันที่ 25-27 ส.ค.
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กนอ้ย พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555-1,560 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,597.70 จุด เพิ่มขึ้น 23.76 จุด (+0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,240.15 จุด เพิ่มขึ้น 11.49 จุด (+0.22%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,187.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.80 จุด (+0.22%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 72.37 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 130.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.46 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,139.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,057.90 จุด เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.72 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.65 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ส.ค.59) 1,547.01 จุด เพิ่มขึ้น 15.38 จุด(+1.00%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 254.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ส.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 ส.ค.59) ปิดที่ 48.22 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ส.ค.59) ที่ 3.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.61/63 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 34.55-34.70
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยจากการสำรวจผู้ประกอบการ วันที่ 9-14 ส.ค. 2559 รวม 600 ตัวอย่าง พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจตลอดปี 2559 อยู่ที่ 98.3 ซึ่งยังต่ำกว่า 100 เนื่องจากช่วงไตรมาส 1-2 เศรษฐกิจโลกไม่ดี จึงทำให้นักธุรกิจไม่เชื่อมั่นต่อสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้สถานการณ์จะดีขึ้น และคาดว่าดัชนีในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 119.5
- ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า จากการสำรวจการแข่งขันสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ และ สินเชื่อปี 2559 ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 18-21 ส.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เริ่มเห็นหลายแบงก์นำแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ย 0% มาใช้อีกครั้ง หลังจากไม่เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว โดยคาดว่าเป็นเพราะแบงก์ต้องการสร้างสีสันในงานลักษณะนี้ ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง และถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งผู้ซื้อบ้านได้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
- กสิกรไทยเตรียมปรับประมาณจีดีพีเพิ่มจากเดิม 3% หลังสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขครึ่งปีแรกดีเกินคาด หวังช่วยดันสินเชื่อขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการรัฐ ท่องเที่ยว พร้อมเตรียมหารือแบงก์หารือออกแพกเกจรับท่องเที่ยว
- คลังได้ผ่อนผันการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2560 ที่จะเริ่มใช้ 1 ต.ค. 2559 โดยโครงการมูลค่าไม่เกิน 5 แสนบาท ให้ใช้วิธีการตกลงราคา โครงการมูลค่า 5 แสนบาท ไม่เกิน 2 ล้านบาท ให้ใช้วิธีสอบราคา และโครงการมูลค่าตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้วิธีอี-บิดดิ้ง หรือ อี-มาร์เก็ต แล้วแต่กรณี
*หุ้นเด่นวันนี้
- TFD-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม(TFD)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 427,825,468 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี 11 เดือน 4 วัน นับจากออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งออกวันที่ 26 ก.ค.2559 และวันครบกำหนดอายุตรงกับวันที่ 29 มิ.ย.2561 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 มิ.ย. 2561
- TWPC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 10 บาท ประกาศลงทุนโรงไฟฟ้า Bio gas โดยจะยื่นขอ PPA ประมาณ 9 MW โดยส่วนหนึ่งจะใช้เองในการผลิตช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าประมาณ 80-100 ล้านบาทต่อปี และระยะต่อไปจะขายให้กับการไฟฟ้า พร้อมคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และจะเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นใน 3Q16 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 32% และ Utilization rate กลับมาเพิ่มขึ้น จาก 50% ใน 2Q16 เป็น 70% และ 80% ใน 3Q16 และ 4Q16
- EPG (โกลเบล็ก) เป้า consensus เฉลี่ย 17.50 บาท Q2/59 (แต่เป็น Q1/60 ของบริษัท) มีกำไร 381 ลบ. (+32% YoY และ 9.5% QoQ) จากรายได้โตขึ้นเป็น 2.3 พันลบ. (+14%YoY) ทั้งนี้ Consensus คาดกำไรปีนี้ที่ 1,400-1,600 ล้านบาท บริษัทยืนยันเป้ารายได้โต 20-25% เป็น 1-1.1 หมื่นลบ.จากเน้นสินค้า Innovation ทำให้ Demand เพิ่มขึ้นมาก ตั้งเป้า Gross Margin ที่ 28 - 32% Net Margin ที่ 15% และโรงงานใหม่ EPP เฟส 2 พร้อมเดินเครื่อง Q2/60 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเดินเครื่องเต็มจะเพิ่มยอดขายได้เป็น 4,000 ลบ./ปี
- CK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 44 บาท มุมมองสดใสในแง่ทั้งผลประกอบการและ Backlog ที่ปัจจุบันมี 7.9 หมื่นล้านบาท บวกกับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก 2.4 แสนล้านบาท คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม เหลือง และชมพู มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ถ้าอิง Success rate 20-25% จะเพิ่ม Backlog ให้อีก 4.8-6 หมื่นล้านบาท และถ้า BEM สามารถเจรจาลงนามงานสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายได้ในปีนี้ จะเพิ่ม Backlog อีก 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดนี้จะรองรับรายได้ได้อีก 3-4 ปีข้างหน้า