นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตราว 30% จาก 322.64 ล้านบาทในปีก่อน ขณะที่ยอดขายช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นราว 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะทำได้มากกว่าครึ่งปีแรก จากการเติบโตของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ โดยบริษัทวางงบลงทุนราว 350 ล้านบาท ในการขยายสาขาทั้งในธุรกิจมือถือและกล้องถ่ายรูป ให้เพิ่มเป็น 200-210 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 190 สาขา และคาดจะมียอดขายต่อสาขาเติบโตราว 19-20%
"ปีนี้ JMART ก็น่าจะเห็นการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งคาดกำไรสุทธิน่าจะเติบโตราว 30% จากการเปิดสาขาใหม่ และปิดสาขาเดิมที่ไม่สร้างผลกำไร รวมถึงการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะยังคงรักษาให้อยู่ในระดับ 17%"นายอดิศักดิ์ กล่าว
นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของรายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโตเกินเป้าหมายที่คาดว่าจะขยายตัว 30% จากระดับ 9.97 พันล้านบาทในปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของบริษัทในเครือ ทั้ง JMART),บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ,บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) และบมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER)
ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่ม JMART ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงมองโอกาสในการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจรีเทล และการเข้าซื้อกิจการของบริษัทในเครือ ขณะที่ปีนี้บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 3.9 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินลงทุนของ JMT 3 พันล้านบาทในการซื้อหนี้ และการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล และเงินลงทุนของ J อีกจำนวน 600 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างกิจการเป็นโฮลดิ้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการการศึกษาในเรื่องของกฎหมาย คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 60 โดยมูลค่าสินทรัพย์รวมของกลุ่มบริษัทมีอยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท