นางนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ในครึ่งปีหลังจะเติบโต 22% จากครึ่งปีแรกที่มีรายได้อยู่ที่ 1.44 พันล้านบาท เป็นผลมาการเพิ่มจำนวนพนักงานขายไปสู่เป้าหมาย 5,000 คนภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันมีพนักงานขาย 3,500 คน อีกทั้งจะเน้นการขายสินค้าให้กับโครงการประชารัฐ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าประเภทตู้เติมน้ำมัน ตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้า และตู้เติมเงิน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังนี้ที่หมู่บ้านในโครงการประชารัฐจะได้รับเงินสนุบสนุนมาเพื่อซื้อสินค้าไปอำนวยความสะดวกคนในหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตามแม้ว่ารายได้ในครึ่งปีหลังจะมีทิศทางในการเติบโตมากขึ้น แต่ภาพรวมรายได้ของทั้งปี 59 ยังมีแนวโน้มที่จะทรงตัวจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3.39 พันล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกเป็นช่วงที่บริษัทมีการปรับโมเดลทางุรกิจใหม่ส่งผลให้ธุรกิจเกิดความชะงักไปบ้าง แต่หลังจากปรับเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทจะหันมาเน้นการเติบโตของกำไรให้เพิ่มมากขึ้น จากการขายสินค้าเชิงพาณิชย์ที่มีมารืจิ้นสูง อย่างเช่น ตู้เติมน้ำมัน ตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้า และตู้เติมเงิน
ประกอบกับ บริษัทมีมาตรการปิดช่องโหว่ของการทุจริตในการชำระค่าสินค้า เพื่อให้มีอัตราการทุจริตเหลือ 0% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1% โดยในแก้ไขปัญหนี้บริษัทได้เปลี่ยนรูปแบบการชำระค่าสินค้าเป็นการชำระผ่านทางธนาคาร หรือร้านสะดวกซื้อและตัวแทนที่มีความน่าเชื่อถือ จากเดิมที่บริษัทให้พนักงานขายเป็นผู้เก็บเงินจากลูกค้า ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งผลให้กำไรของบริษัทเติบโตขึ้น และคาดว่ากำไรในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนที่ 143.15 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรอยู่ที่ 81.26 ล้านบาท
ส่วนแก้ไขปัญหาสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทให้ลดลงนั้นจะใช้วิธีการรีไฟแนนซ์ และการติดต่อลูกค้าเพื่อติดตามทวงถามหนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แนวโน้มของ NPL ลดลง โดยบริษัทตั้งเป้าสิ้นปีนี้ NPL จะลดลงเหลือ 7% จากปัจจุบันที่ 10% และในปี 60 จะลดลงเหลือ 5%
ด้านกลยุทธ์การเพื่มจำนวนพนักงานขายให้ได้ตามเป้าหมายในปี 60 จะมีพนักงานขายทั้งหมด 10,000 คน บริษัทจะเปิดโอกาสให้พนักงานขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 มาสมัครเป็นพนักงานของบริษัทด้วย โดยในปัจจุบันมีจำนวนพนักงาน 7-11 มาเป็นพนักงานขายของบริษัทกว่า 100 คน ซึ่งจะทำให้มีพนักงานขายที่มีชั่วโมงการทำงานอยู่ที่ 8 ชั่งโมง/วัน และมีความสามารถในการขายสูง อีกทั้งมีโอกาสที่จะพบเจอลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้านได้บ่อย ทำให้การขายสินค้าในเครือของบริษัทและสินค้าแบรนด์อื่นๆมีโอกาสขายได้ค่อนข้างมาก และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มเดียวกับบริษัท ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้จำนวนพนักงานขายของบริษัทสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้